หลังโควิดระบาดมาอย่างยาวนาน หลายประเทศเริ่มเปิดให้เข้าโดยมีการผ่อนปรนในเรื่องของการตรวจโควิดหรือไม่ต้องกักตัวแล้ว
บ้านเรามาสิงคโปร์กันค่ะ มีปอ แม่ปอ น้องซาช่า และแฟนปอ (เดียวปอจะมารีวิวเอกสารและสิ่งที่ต้องเตรียม ถ้าอยากมาเที่ยวสิงคโปร์อีกโพสนึงนะคะ) ทุกคนเคยมาสิงคโปร์ในช่วงก่อนโควิด ยกเว้นน้องซาช่ายังไม่เกิด
ไฟลท์มาถึงราวๆสองทุ่มครึ่ง รอบนี้ลงทะเบียนการเข้าประเทศแบบเป็นกลุ่ม โดยเจ้าหน้าที่เห็นเรามีเด็กทารกก็ส่งไปช่อง priority ซึ่งเจ้าหน้าที่เป็นคุณลุง สว ที่ไม่ค่อยพูดอังกฤษกับเรามากเท่าไร พอถึงคิวของเราก็เดินเข้าไปพร้อมกัน โดยคุณลุงเริ่มสแกนพาสปอร์ตแฟนและน้องซาช่าก่อน ขั้นตอนนี้เค้าจะขอดูหลักฐานวัคซีนและให้ถ่ายรูป พร้อมสแกนนิ้วโป้งสองมือ ไม่มีคำถามอะไรเลย หลังจากนั้นนึกว่าจะผ่าน ปรากฎเค้าเรียก จนท ผู้หญิงให้พาแฟนกับน้องซาช่าไปที่ไหนสักที่ เหลือปอกับแม่อยู่ในคิว
ต่อมาเค้าสแกนพาสปอร์ตแม่ ขั้นตอนเหมือนที่แฟนทำทุกอย่าง โชว์ประวัติการฉีดวัคซีน ถ่ายรูป สแกนนิ้วมือ จากนั้นก็เรียกพนักงานผู้หญิงคนเดิมพาแม่ออกไป (ตอนนั้นเริ่มกังวล เพราะแม่พูดอังกฤษแทบไม่ได้เลย) เหลือปอคนเดียวตอนนี้ ลุง ตม ก็ทำตามสเตปเดิม ปอเห็นเค้าง้างสแตมป์กำลังจะปั๊ม สุดท้ายอะไรดลใจไม่รู้ เรียกพนักงานพาเราออกไป พอเดินไปเจอแม่ แอบดีใจ เพราะแม่กำลังเซิ้งภาษาไทยใส่พนักงาน 555 หลังจากนั้นก็เหมือนโดนถามใหม่ ถามว่าเคยเข้าสิงคโปร์มาใช่ไหม ไม่ใช่ชื่อนี้ (ปอเปลี่ยนนามสกุลและเเม่มีเปลี่ยนชื่อ) ก็ถามเหตุผลเราก็ตอบไป
หลังจากนั้นเค้าถามหา Dead poll ซึ่งตอนแรกด้วยความที่กำลังเหนื่อยจากไฟลท์เลยนึกไม่ออกว่าเค้าถามหาเอกสารอะไร ซึ่งพอตั้งสติก็เลยนึกออกว่าเค้าหมายถึง ใบเปลี่ยนชื่อ! เดชะบุญที่พกมาด้วย แต่แม่ดันไม่ได้เอามาอีก แอบนอยเบาๆว่าถ้าเเม่โดนส่งกลับทริปน่าจะล่มเลย ก็เลยขอเขาโชว์ Thai ID card แทน (บัตร ปชช) แล้วเขาก็เอาไปคีย์ข้อมูล เชคๆ ไม่ได้ถามอะไรเพิ่ม ให้ถ่ายรูปและสแกนนิ้วอีกรอบ โดยบอกว่าถ้าแม่มาครั้งหน้าให้พกใบเปลี่ยนชื่อมาด้วยนะ หลังจากนั้นก็บอกเราสองคนโอเคแล้ว จะออกเลยมั้ย ปอก็แอบชะเง้อมองหาอีกสองหนุ่ม แต่พอหันไป อ้าวไม่เจอแฟนกับลูก สรุปเขายังติด ตม อยู่ เลยถาม จนท ว่าเห็นแฟนกับลูกไหม มาด้วยกัน เค้าก็ชี้ไปว่าอยู่ในโซนพักคอยเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นโซฟาที่อยู่โซนด้านหลังเค้าเตอร์ที่ปอกับแม่โดนถาม
ปอเลยบอกว่าขอรอออกไปพร้อมกันทั้งกลุ่ม เขาเลยพาไปตรงพักคอย ซึ่งบริเวณนี้รวบรวมคนที่ติด ตม หลากหลายเชื้อชาติ คนข้างๆเป็นคนอินโด อีกฝั่งเป็นคนไต้หวัน จะมีเจ้าหน้าที่มาเรียกไปคุยทีละคน พอไปเจอแฟนเขาก็เล่าว่าโดนถามซักละเอียดมาก ถามว่าเคยมาสิงคโปร์มั้ย ที่อยู่ อีเมล์ งานที่ทำ ไฟลท์กลับ และที่พีคคือ เคยโดนจับมาก่อนมั้ย — คำถามพวกนี้ปอเคยโดนถามตอนเข้าห้องเย็นที่อเมริกา — แต่เคสเเฟนคือแอบงง เพราะเค้าเคยมาสิงคโปร์หลายรอบ (ตอนสแกนนิ้ว จนท น่าจะเห็นประวัติที่ผ่านมา) ไม่มีเคยมีประวัติอาชญากรรมในประเทศไหนมาก่อน และเขาถือพาสปอร์ตอังกฤษ (ก็ไม่น่าโดนเพ่งเล็งขนาดนี้มั้ยคะ เพราะคงไม่ได้จะมาโรบินฮู้ด)
แฟนคุยกับน้องซาช่าแบบติดตลกว่า ลูกเตรียมร้องไห้เลยจะได้ผ่านไวๆ เค้าน่าจะสงสารเด็ก (ตอนนั้นเกือบสี่ทุ่มแล้ว) แล้วหลังจากนั้นก็รอเจ้าหน้าที่เกือบ ชม เค้าถึงมาเรียกกลับไปคุยอีกครั้ง พอเรียกไปก็ถามแค่ว่ามากี่คน เบอร์โทรเบอร์อะไร แล้วก็ปล่อยผ่าน
ตลกตรงตอนเค้าพาไปช่องเดินออก น้องซาช่าร้องไห้โชว์เลย ตามที่พ่อเค้าซ้อมมา 555 ก่อนหน้านั้นอารมณ์ดีเอิ้กอ้ากๆ
สรุปคือ คนที่เคยมาสิงคโปร์แล้วเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนพาสปอร์ต อย่าลืมพกใบเปลี่ยนชื่อที่เป็นภาษาอังกฤษมาด้วยนะคะ (ปกติปอคิดว่าจะมีปัญหาแค่ประเทศที่เราต้องขอวีซ่า ไม่คิดว่าจะเป็นประเด็นที่สิงคโปร์ ด้วยความที่มาหลายรอบแล้วไม่เคยมีประวัติเสียหาย) ยิ่งคนที่สื่อสารภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้อาจจะลำบากและมีปัญหาได้ เพราะเจ้าหน้าที่ดูซักถามเเม่เยอะพอสมควร ส่วนเคสแฟนยังคิดกันไม่ออกโดนเพราะอะไร หรือชื่อไปคล้ายโจรรึป่าวนะ 😂
ถ้าใครจะมาสิงคโปร์ก็อย่าลืมเตรียมเอกสารสำคัญมาเผื่อนะคะ อาจจะสุ่มตรวจก็ได้ เเต่ถ้าไม่มีหลักฐานให้ จนท ดูก็ไม่รู้จะเป็นยังไงต่อเหมือนกัน เห็นคนอินโดอีกคนคุยกับ จนท นานมากๆ เพราะเหมือนเค้าไม่มีเอกสารมา