สิงคโปร์เป็นประเทศที่เที่ยวง่าย ปลอดภัย สะอาด และอาหารอร่อยๆก็หาไม่ยาก มีกิจกรรมหลากหลายให้ทำ ซึ่งปีใหม่ที่จะถึงนี้ สิงคโปร์ก็เป็นอีกที่นึงที่น่าจะไปเค้าดาวน์ต้อนรับปีใหม่ ทั้งกิน ทั้งช้อป ทั้งเที่ยว ขอบอกว่าประเทศนี้ครบแถมใกล้ไทยด้วย บินแค่ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว จะไปเที่ยวเสาร์อาทิตย์ก็ได้เก๋ๆ
ล่าสุดปอเพิ่งไปมาช่วงกลางเดือน ธค คือเค้าต้อนรับเทศกาลคริสมาสต์แบบครึกครื้น ตามห้างหรือร้านอาหารต่างๆประดับตกแต่งร้าน พร้อมกับลดราคาสินค้ากันค่อนข้างกระหน่ำ (ไปเสียทรัพย์ที่ Sephora มาแบบงงๆของหลายยี่ห้อถูกกว่าไทยเยอะเหมือนกัน)
หลังจากที่เที่ยวมาพอสมควร เกิดเรื่องราวไม่คาดคิดก็หลายครั้ง ทั้งไฟลท์ดีเลย์ , กระเป๋าเดินทางไม่ตามมากับไฟลท์ที่เปลี่ยนเครื่อง, กระเป๋าเดินทางเสียหาย สิ่งที่ปอให้ความสำคัญอีกอย่าง ก็คือการทำประกันการเดินทาง เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นมา ความเสียหายนั้นมากกว่าการซื้อประกันเยอะค่ะ สมัยที่เดินทางเองใหม่ๆพอเราเห็นว่าประเทศที่จะไปไม่ต้องขอวีซ่า เราไม่ต้องต้องซื้อประกันการเดินทางก็ได้ ไม่มีสถานทูตมาบังคับ สรุปคือทริปนั้นเกิดเรื่องเลยค่ะเพราะกระเป๋าเดินทางของปอหายไป4 วัน (ตั้งแต่เริ่มทริปแล้วทริปนั้นจะเที่ยวเดือนนึง) ต้องตามสายการบินชุลมุนไปหมด เที่ยวไม่เป็นสุขเลยค่ะ หลังจากนั้นไม่ว่าจะไปเที่ยวไหนใกล้ไกลก็ซื้อประกันการเดินทางทุกทริป (ช่วงที่เดินทางเยอะมากก็จะซื้อแบบยาวๆรายปีเลยเพราะคุ้มมาก) สำหรับใครที่สนใจ MSIG มีประกันการเดินทางที่เบี้ยประกันเริ่มต้นแค่190 บาท สามารถใช้ยื่นขอวีซ่าได้ทุกแผน ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าจะซื้อผิดอันมั้ย ถ้าวีซ่าไม่ผ่านทาง MSIG ก็คืนเงินให้ 100%ไปอีก นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษดีๆอีกมากมายเช่น
– ให้ความคุ้มครองถึง19 ข้อ
– มีบริการให้คำปรึกษาด้านการแพทย์และการเดินทางMSIG Assist ตลอด24 ชั่วโมงทั่วโลก(โทรศัพท์กลับไทยผ่าน MSIG Assist จ่ายค่าโทรคืนตามจริงไม่เกิน500 บาท)
– หากติดต่อMSIG Assist ขณะเจ็บป่วยแต่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลในต่างประเทศรับค่าชดเชยการเดินทาง 1,000 บาทต่อทริป
– หากติดต่อ MSIG Assist และจำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลก็ไม่ต้องสำรองจ่ายเงิน
อ่ายรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://utmlink.co/5a35ddf4
สถานที่น่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่
( Credit : yahoo mail Singapore)
- บริเวณรอบๆ Marina Bay : วันสิ้นปีเพื่อต้อนรับเข้าปีใหม่ที่สิงคโปร์จะมีการจุดพลุฉลองอย่างยิ่งใหญ่ซึ่งจุดชมพลุที่ไม่เสียเงินสามารถไปจับจองที่นั่งได้ที่นี่
- Sentosa / Universal Studio : มีการตกแต่งต้อนรับปีใหม่ ขึ้นชื่อว่า universal studio รับรองไม่ผิดหวัง เครื่องเล่นที่นี่ก็มีวนุกๆเสียวๆหลายอย่างเลยค่ะ (แนะนำให้ซื้อ Fast track เพราะไม่ต้องต่อคิวนาน)
- อีกสถานที่ไฮไลต์ก็คือ Gardens by the Bay ที่มี Christmas market ข้างในเลยและ light show ก็จะดูสวยขึ้นอีกในช่วงเทศกาล นอกจากนี้ข้างใน Gardens by the Bay ยังมีการจัดแสดงและประดับไฟสวยงามมีจุดให้เชคอินและถ่ายรูปสวยๆเยอะมาก
มาเข้าเรื่องของเรากันค่ะคนอื่นเน้นที่เที่ยวทริปนี้ขอเน้นที่กินค่ะเที่ยวไม่กี่ที่พอ ปีใหม่ทั้งทีก็จะเน้นดูพลุและเน้นเข้าร้านอาหาร 555
- Ya Kun kaya toast
พิกัด: มีหลายสาขา สามารถดูได้ที่ สาขาร้าน Ya Kun kaya toast
เวลาทำการ: สาขาส่วนใหญ่เปิด 7:30 am เวลาปิดแล้วแต่สาขา มีตั้งแต่ 19:00 -22:00 ต้องเช็คก่อนไปนะคะ แต่ส่วนใหญ่คนก็จะไปกินมื้อเช้า
ราคา: $ (คะแนน $ ถึง $$$$$ ยิ่งเยอะ คือแพงมากกินแล้วล้มละลายได้เลย) ร้านนี้คือราคาเปนมิตร หน่วยที่พูดถึงทั้งหมดในรีวิวคือ สิงคโปร์ดอลล่านะคะ (จะใช้เครื่องหมาย $ แทน)
มื้อเช้าปอชอบมากินร้านนี้ มีสาขาเยอะลองเสิร์ชกูเกิลหาสาขาที่ใกล้ที่สุดไปลองได้เลยค่ะ เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมายาวนานตั้งแต่ปี 1940 ซึ่งเมนูที่สั่งบ่อยๆก็คือ Kaya toast with butter set ร้านนี้มีหลายสาขา (ที่ไทยก็มีนะคะ) Kaya toast คืออะไร? มันคือขนมปังแบบบางๆที่เค้าทำให้กรอบๆแบบใส่เครื่องปิ้งขนมปัง แล้วไส้ข้างในจะเป็นเนยแผ่นกับไส้สังขยาสูตรของทางร้าน (อารมณ์แบบแซนวิชกรอบชิ้นบางๆ) พอกินกับชานมร้อนๆนี่ฟินมากค่ะ ในเซท A จะมีไข่ลวกให้อีก 2 ฟอง เซทนี้ราคา 4.8$
นอกจากมื้อเช้าที่ร้าน Ya Kun แล้ว สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีร้านอาหารติดดาวมิชลินเยอะมาก ตั้งแต่ร้านอาหารราคาถูกแบบ street food ไปจนถึงร้านหรูหราสุดแพง มาดูกันค่ะ ว่าจะพาไปชิมที่ไหนบ้าง
2. Hawker Chan Chicken rice (ร้านมิชลิน 1 ดาวที่ราคาถูกที่สุด)
พิกัด: มีหลายสาขา สาขาที่คนชอบไปจะเป็นตรงใกล้ China town complex ทางไปร้าน กับสาขาที่อยู่บนตึก
เวลาทำการ: 10:30 -20:30 (ปิดวันอาทิตย์)
ราคา: $ (อาหารจานเดียวแบบข้าวราดก็ราคา 5-10$)
เมนูที่โด่งดังก็คือข้าวหน้าไก่ซีอิ๊ว ซึ่งสาขาที่ปอไปเป็นสาขาที่เค้าได้ดาวมิชลินทำให้มีคนมาต่อแถวยาวมากๆทุกวัน (ส่วนใหญ่ก็เป็นนักท่องเที่ยว) พอถึงคิวปอเหลือไม่กี่อย่างโชคดีที่ยังได้กินข้าวหน้าไก่กับบะหมี่ไก่ (Soya sauce chicken with rice and with noodle) สิ่งที่ได้ในจานก็คือ ข้าว/บะหมี่ ราดด้วยไก่ส่วนสะโพกราดน้ำซีอิ๊ว และมีผักเคียงมาให้ ไม่ค่อยชอบตรงที่ไก่จะมีกระดูกติด ทำให้กินลำบากนิดนึง ถามว่าว้าวมั้ยก็ไม่ได้ขนาดนั้นแต่ไก่รสชาติดีค่ะกัดไปเต็มปากเต็มคำข้าวก็ธรรมดาค่ะ แต่นำ้ซอสอร่อยถือว่าไปลองได้ค่ะ รสชาติเค็มนำ มีหวานตัดนิดนึง (แต่ที่terminal 21 ก็มีร้านเค้ามาเปิดแล้วนะคะ)
3. Eminent Frog porridge seafood restaurant (โจ๊กกบในตำนาน ได้มิชลิน Bib Gourmand)
พิกัด: Geylang Lorong 19, 323 Geylang Road
เวลาทำการ: 17:00-04:00 (อารมณ์ร้านข้าวต้มรอบดึก)
ราคา: $$ (เป็นอารมณ์ร้านข้าวต้มตามสั่ง ราคาประมาณ 10-30$ แต่เมนูดังของเค้าคือกบ)
จากคนที่กลัวกบเพราะตอนเรียนเคยผ่ากบแล้วภาพมันฝังหัวมาตลอดลองเปิดใจลองชิมเพราะเห็นว่าร้านนี้ดัง แล้วคนกินเยอะจริง แน่นร้านมากๆตลอดช่วงเวลาตั้งแต่ไปร้านจนกินเสร็จ ถ้าไปตอนช่วงพีคๆคือรอคิวนานอยู่นะ สั่งกบมาลองชิมค่ะเป็นกบทั้งตัวเค้าจะเอามาปรุงกับซอสของทางร้าน ตักราดข้าวต้มร้อนๆคืออร่อยมากกกก ไม่คิดว่าเนื้อกบจะแน่นอร่อยแบบนี้ อ่อ ร้านนี้รออาหารนานนะคะ ควรรองท้องไปก่อนถ้าหิวมาก
4. Hill Street Tai Hwa Pork Noodle (ร้านก๋วยเตี๋ยวมิชลิน 1 ดาวราคาเป็นมิตร)
พิกัด: ศูนย์อาหาร Tai hwa eating house พิกัดร้าน
เวลาทำการ: 9:30 – 21:00
ราคา: $ (ราคาตั้งแต่ 6-10$ สำหรับก๋วยเตี๋ยว มีหลายไซส์ให้เลือก)
ร้านนี้เป็นร้านที่ได้สมญานามว่าเป็นอีกร้านมิชลินที่ราคาถูกเพราะเมนูแต่ละอย่างราคาราวๆ10$ ความโด่งดังของร้านนี้ คือเมนูบะหมี่หมูสับ ร้านตั้งอยู่ที่ศูนย์อาหาร Tai hwa eating house เป็นร้านเล็กๆเปิดมา 90 ปีได้เเล้วค่ะ มีรางวัลติดอยู่ตามผนังร้าน ด้วยความที่หิวมากอยากลองหลายอย่าง ก็เลยสั่งมาทั้ง Bak chor mee แบบแห้ง ทั้งน้ำ ทั้งเกาเหลา คุณลุงเจ้าของร้านลวกและปรุงก๋วยเตี๋ยวแบบดูเพลินมาก ลุงคนรับออเดอร์ก็พูดอังกฤษได้นิดหน่อยค่ะ สิ่งที่ได้รับจากแบบแห้งคือ บะหมี่เกี๊ยวแห้งหมูสับ ลูกชิ้น ตับ โรยหน้าด้วยต้นหอม และปลากรอบ น้ำราดจะเป็นซีอิ๊ว
เอาจริงๆถามว่าว้าวมั้ยก็ไม่ได้ว้าวเท่าไหร่นะคะ เส้น ซุป และลูกชิ้น รู้สึกเฉยๆนะคะแต่เครื่องเค้าเยอะดีค่ะ ถ้าให้เลือกก็ชอบแบบแห้ง ส่วนตัวคิดว่าร้านก๋วยเตี๋ยวที่ไทยมีเด็ดกว่านี้หลายร้าน อาจจะเป็นเพราะเราติดความจัดจ้านและรสเเซ่บของก๋วยเตี๋ยวแบบไทยไปแล้วด้วยมั้ง แต่ความมิชลินก็ทำให้ต้องมาต่อแถวเพื่อมาลอง (ต่อแถววันนั้นอยู่ประมาณ ชม ครึ่งค่ะ คนที่ต่อส่วนใหญ่ก็เป็นฝรั่ง ส่วนปอนั้นอาจจะโมโหหิวเลยสั่งเยอะ555)
5. Tsuta ร้านโซบะที่ได้รางวัลมิชลินสตาร์
พิกัด: 78 Airport Boulevard , #02-242 Jewel Changi Airport ตรงที่มีน้ำตกสวยๆที่คนชอบไปถ่ายรูปที่สนามบินค่ะ
เวลาทำการ: 10:00 – 22:00
ราคา: $$
ร้านนี้เป็นร้านโซบะอันโด่งดังของญี่ปุ่น มาเปิดสาขาที่สิงคโปร์ วันนี้สั่งเมนู Ajitama Shoyu Soba ร้านนี้ความโดดเด่นคือการใส่ทรัฟเฟิลลงไปในอาหารทำให้มีกลิ่นเฉพาะตัวมากๆแบบที่ไม่เคยเจอจากโซบะทั่วไป ชามนี้มีหมู ชาชู ไข่ หน่อไม้ทรัฟเฟิลและน้ำมันทรัฟเฟิล ถือว่าเป็นรสชาติแปลกใหม่ เส้นเหนียวนุ่ม ลวกมาดี น้ำซุปกลมกล่อมค่ะ ราคา16.8 $
6. Bugis street famous hainanese chichen rice (ข้าวมันไก่ไชน่าทาวน์)
พิกัด: 335 Smith Street Chinatown Complex (อยู่ตรงถนนที่มีร้านอาหารเยอะๆในไชน่าทาวน์)
เวลาทำการ: 10:30 – 22:30
ราคา: $
ไก่คือเนื้อเด้งแล้วก็ชุ่มฉ่ำมากกัดทีนึงเต็มปากเต็มคำ ข้าวเม็ดใหญ่กว่าของไทยน้ำซุปรสชาติดีค่ะน้ำจิ้มมีหลายแบบแต่ไม่ค่อยถูกปากปอเท่าไหร่อาจจะเป็นเพราะชอบน้ำจิ้มแบบไทยมากกว่า จานนี้ 6$ ก็ถือว่าใช้ได้นะคะ อีกอย่างที่สั่งมาลองคือบะหมี่เป็ดและหมูกรอบ บะหมี่เป็นแบบเส้นเล็ก กรุบๆ เคี้ยวอร่อยดีค่ะ รสชาติโดยรวมคือดี หมูกรอบอร่อย เป็ดธรรมดา แต่จานนี้จุกมากก ราคา 9$
7. Leong Kee (Klang) Bak kut teh (บักกุดเต๋)
พิกัด: 251 Geylang Rd.
เวลาทำการ: 11:00 – 01:30 (เปิดขายยาวๆยันตีหนึ่งเลยจ้า)
ราคา: $
ร้านนี้ได้รับคำแนะนำมาจากเพื่อนคนสิงคโปร์ คือเป็นร้านริมถนน อยู่ไม่ไกลจากร้านกบ Eminent เมนูมีให้เลือกเยอะมาก สำหรับคนที่ชอบเครื่องในต่างๆ น่าจะชอบ เพราะเค้ามีทุกส่วนให้ลองเลย ไม่ว่าจะเป็น ไส้ ท้อง ตับ ไต ไส้อ่อน และอื่นๆอีกมากมาย แต่ปอลองสั่งมา 2 แบบคือบักกุดเต๋ธรรมดากับบักกุดเต๋แบบแห้ง แบบธรรมดาก็รสชาติดีค่ะกินกับข้าวสวยอร่อย แต่สิ่งที่ว้าวมากคือแบบแห้งเพราะไม่เคยกินมาก่อน แล้วรสชาติอร่อยเข้มข้น กินกับข้าวฟินมาก ราคาแบบธรรมดา 7$ แบบแห้งราคา 10.5$
8. Shisen Hanten by Chen Kentaro (มิชลิน 2 ดาว)
พิกัด: ชั้น 35 โรงแรม Mandarin Orchard Singapore
เวลาทำการ: มื้อเที่ยง 12:00 – 15:00 มื้อเย็น 18:00- 22:00 (แนะนำให้จองโต๊ะก่อนไป)
ราคา: $$$$
เป็นร้านอาหารจีนสไตล์เสฉวนที่ไปกินซ้ำมาหลายรอบ ร้านนี้ความเป็นมาคือเริ่มจาก Chen Kenmin ที่ได้รับฉายาว่าเป็นตัวพ่อของอาหารสไตล์เสฉวนในญี่ปุ่นอยู่ในวงการอาหารตั้งแต่ปี 1958 ถ่ายทอดเคล็ดลับอาหารจากรุ่นสู่รุ่นสืบทอดมาจนเชฟคนปัจจุบัน หลังจากร้าน Shisen Hanten ก่อตั้งได้ 2 ปี เชฟ Kentaro ก็คว้าดาวจากมิชลินมาได้ 3 ปีซ้อน ปัจจุบันร้านนี้ได้มิชลิน 2 ดาว เมื่อเข้ามาในร้านก็จะเจอการตกแต่งแบบเรียบหรู บริการใช้ได้(เมื่อเทียบกับร้านจีนร้านอื่นๆ) ติ่มซำอร่อย อาหารจานหลักก็รสชาติดี เมนูที่ได้สั่งมาลองชิม (อันนี้รวบรวมจากการไปหลายครั้ง)
– ติ่มซำลองมา 2 อย่าง คือเกี๊ยวแบบเสฉวน จะมีน้ำมันพริกเผ็ดๆราดเกี๊ยวในจาน เกี๊ยวเนื้อเเน่น รสชาติอร่อยค่ะจานนี้ 8$ อีกจานเป็นลักษณะคล้ายฮะเก๋า รสชาติดีเหมือนกันค่ะ แป้งบางๆเหนียวๆ เอาจริงๆใครจะมาลองแค่ติ่มซำก็ได้นะราคาจานละประมาณ 8$ ยกเว้นวากิวที่ราคา 12$ ซึ่งเชฟก็ทำออกมาได้อร่อยและหน้าตาดีสมดาวมิชลินค่ะ
– มาถึงอาหารจานหลัก(บางอย่างไปกี่ทีก็สั่งซ้ำคือชอบมาก)
> Szechwan hot and sour seafood soup (ซุปเสฉวน) รสชาติกลมกล่อม สัมผัสเนื้อปูได้เเบบเต็มๆ รสชาติเผ็ดเล็กน้อย อร่อยดีค่ะ มาแบบถ้วยน่ารักกรุบกริบ เรียกน้ำย่อยได้ดี ราคา15$ ต่อคน
> Barbecued pork + crispy roasted pork (หมูแดงและหมูกรอบ) หมูกรอบคือหนังบางมากกก กรอบมากกก คืออันนี้อร่อยเลย สำหรับหมูแดงก็นุ่มรสชาติธรรมดาไม่เด่นมากค่ะ เอามากินกรุบๆก่อนจานหลักมาหรือจะสั่งข้าวสวยมานัวตั้งแต่เริ่มก็ได้ จานนี้ราคา 24$
> Sauteed chicken and chilli pepper (ไก่คั่วพริกเกลือและหมาล่า) โอโหจานนี้ขอติดดาววว ด้วยความที่ซิกเนเจอร์อาหารเสฉวนจะเผ็ด จานนี้ตอบโจทย์มาก ไก่ทอดมาได้ดี กรอบนอกนุ่มใน รสชาติการผัดก็คือนัวมาก แบบจกไปจกมาแปบๆหมดจาน ไปลองไก่หมาล่ามาหลายร้าน ส่วนตัวชอบความลงตัวของร้านนี้มากที่สุด มากี่รอบก็สั่งทุกรอบ จานนี้ราคา 34 $
> Chen’s Mapo Doufu (มาโพโตฟูเต้าหู้เผ็ชช) ร้านนี้ทำได้ดีมากคือมาในหม้อร้อน เต้าหู้หั่นพอดีคำ น้ำซอสเผ็ดคือรสชาติที่กินกับข้าวสวยร้อนๆแล้วเข้ากัน ไม่เลี่ยนมากถือว่าผ่านค่ะ
> Stir-fried prawn with chilli sauce ความเด็ดดวงของจานนี้ก็ขนมปังที่มาคู่กันรสชาติคล้ายๆปาท่องโก๋แบบหวาน แต่เนื้อเนียนละเอียดเหมือนเค้ก คืออร่อยมาก สำหรับกุ้งก็ตัวใหญ่เด้ง กัดทีนึงกรึบๆ ส่วนตัวซอส เเม้เค้าจะเขียนว่าเป็น chilli sauce แต่จานนี้ไม่เผ็ดค่ะ กินกุ้งกับขนมปังคืออร่อยมาก เอาตรงๆจานนี้จานเดียวก็แทบจุกเลย จานนี้ราคา 44 $
9. Jiang – Nan chun ( มิชลิน 1 ดาว )
พิกัด: โรงแรม Four Seasons Singapore
เวลาทำการ: มื้อเที่ยง 11:30-14:30 มื้อเย็น 18:00-22:30 (แนะนำให้จองโต๊ะก่อนไป)
ราคา: $$$$
ร้านนี้เชฟ Lam มีประสบการณ์กับอาหารจีน Cantonese ถึง20 ปี อาหารหลายจานต้องจองล่วงหน้า 1 วันก่อนมากิน วันนี้มีโอกาสไปลองมื้อเที่ยงมาค่ะ เค้ามีทั้ง Set menu และ A la carte เมนู ซึ่งเลือกแบบหลังเพราะอยากลองหลายอย่าง
– ติ่มซำอยากบอกว่าร้านนี้ติ่มซำเค้าดังนะคะ (มีแค่มื้อเที่ยงเท่านั้น) 2 อย่างที่เค้าแนะนำคือ Crystal mushroom dumpling ตัวนี้คือว้าวจริงคล้ายๆฮะเก๋ามีความกรุบๆของไส้ที่เป็นเห็ดเเป้งบางหนึบๆสีเขียวคือแทบละลายในปาก, steamed shrimp dumpling ไส้กุ้งเต็มคำเป็น dumpling ที่หน้าตาไม่เหมือนทั่วไปแต่รสชาติอร่อยมากเช่นกัน ความอร่อยอีกอย่างก็คือซอส 3 อย่างที่เค้ามีวางไว้บนโต๊ะ เสียดายที่ไม่ได้ตั้งใจแค่มากินติ่มซำเลยสั่งแค่ 2 อย่างเพราะกลัวอิ่มก่อนสั่งเมนูหลัก ไว้รอบหน้ามาจัดแต่ติ่มซำอีกที
– สำหรับเมนูจานหลักส่วนใหญ่จะสั่งอะไรที่เป็นSignature ของเชฟ
> Honey glazed pork collar หรือหมูน้ำผึ้ง โอ้ยจานนี้ตายๆ อร่อยมากกก ด้วยความที่ไม่ชอบมันมากเลยรีเควสเชฟว่าขอไม่ค่อยมันได้มั้ย เชฟก็จัดให้มาแบบมันนิดเดียวเนื้อนุ่มมากกกกก กินกับข้าวสวยคือที่สุด
> Deep-fried shell crab with wasabi mayonnaise จานนี้ไม่ค่อยผ่านเพราะตัววัตถุดิบหลักหรือตัวปูเค้าชุบแป้งค่อนข้างเยอะแล้วทอดกรอบมากทำให้เวลากินไม่ค่อยได้ texture ของปูเท่าไร กัดไปเหมือนแป้งเยอะ ซอสอร่อยดีค่ะ แอบเสียดายเบาๆกับจานนี้
> Wok-fried Westholme Australia AA7 Wagyu beef tenderloin with black pepper sauce ก่อนสั่งคือสงสัยกว่าวากิวแบบ AA7 คืออะไร ปกติเคยเจอแค่ A5 (ถามพนักงานเค้าบอกว่าเป็นการให้เกรดเนื้อวากิวคนละระบบ A5 เป็นของญี่ปุ่นส่วนที่ร้านนี้เค้าเสิร์ฟเนื้อวากิวจากออสเตรเลีย) พอของจริงมาคือเห็นเนื้อแล้วนึกว่าจะ overcooked หรือเหนียว สรุปคือกัดไปแทบลอยเลยมันนุ่มแบบนุ่มมมมมม. แทบละลายเลยทีเดียวซึ่งสิ่งที่ชอบมากๆก็คือมันไม่มันไม่เลี่ยน ซอสพริกไทยดำก็เข้ากันกับเนื้อ คือจานนี้อร่อยเลย เอาเป็นว่าควรสั่ง
> wok-fried chicken with dried chilli and cashew nut จานนี้ค่อนข้างเฉยๆนะเป็นไก่ผัดเม็ดมะม่วงที่ธรรมดาไปหน่อย
> Fried rice crab meat, egg white and dried scallop ข้าวผัดเนื้อปูและหอยเชลล์จานนี้รสชาติดีค่ะเด็กกินได้ผู้ใหญ่กินดี
ภาพรวมของร้านนี้คืออาหารอร่อยบริการดีแต่ราคาแรงมว้ากกกกบิลออกมาเท่าร้านมิชลินสองดาวข้างบนเลย
ปิดท้ายด้วยการมาหาเครื่องดื่มกระแทกปากพร้อมกับวิว Marina Sand Bay hotel สวยๆที่บาร์ของโรงแรม Mandarin Oriental Singapore ซึ่งถ้ารีเควสนั่งริมๆจะเห็นวิวสวยมากค่ะวันนี้สั่งคอกเทลไปเก๋ๆแก้วนึงลมเย็นๆบรรยากาศดีๆต้อนรับปีใหม่ได้แบบชิคๆเลยค่ะ
ปีใหม่นี้ลองไปตะลุยกินที่สิงคโปร์ดูนะคะ สนุกแน่นอน 😀
https://utmlink.co/5a35ddf4 #ประกันเดินทางMSIG #MSIGประกันภัย #MSIGTravelEasy