หลายๆคนคิดไม่ตกว่าจะเลือกซื้อหม้อยี่ห้อไหนดี มีคำถามนี้ที่เจอได้บ่อยๆ วันนี้ลองเขียนหลักการที่ตัวเองใช้ตอนเลือกซื้อหม้อใหม่ 5 ข้อ เผื่อจะช่วยคนที่ยังไม่มีหม้อหรือกำลังจะถอยตัวใหม่ให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ

1.ตั้งงบ : จุดเริ่มต้นของการซื้ออะไรสักอย่างแบบงบไม่บานปลายควรเริ่มต้นจากตรงนี้ค่ะ ปัจจุบันนี้หม้อทอดมีหลายยี่ห้อหลายหลายให้เลือกเต็มไปหมด การกำหนดงบจะช่วยให้เราคัดกรองรุ่นที่น่าสนใจที่ตรงงบได้ระดับนึง ถ้านึกไม่ออกจริงๆ ว่าหม้อทอดควรซื้อแบบราคาเท่าไร ลองดูเกิลก็จะเจอตัวเลือกมากมายให้ได้ดูคร่าวๆค่ะ ยี่ห้อที่คนนิยมใช้ก็จะเป็น Philips, Tefal, Smarthome, Otto, Xiaomi และยังมียี่ห้ออื่นๆอีกมากมาย

ราคาเคยเจอตั้งแต่หลักร้อย(ช่วงลดราคา) ไปจนถึงหลักหมื่นค่ะ ในรูปที่ลงมีวิธีหาหม้อตามงบง่ายๆจากการเสิร์ชในกูเกิล เผื่อช่วยกรองหม้อตามราคาที่เราสนใจค่ะ ลองคลิ๊กดูนะคะ มีขั้นตอนง่ายๆ 4 ขั้นตอน

2.เลือกขนาดของหม้อและฟังก์ชั่นการใช้งานที่เราต้องการ : ขนาดใครว่าไม่สำคัญ? หลายคนที่ซื้อแต่ไม่ได้เชคขนาดก่อน พอเอามาใช้จริงใหญ่ไม่พอกับการใช้งานที่ตัวเองจำเป็น ทำให้ต้องไปซื้อหม้องอกเพิ่มอีกใบนึง (อาจจะเพราะอยากได้ด้วย55) ส่วนตัวชอบหม้อไซส์ 3 ลิตรขึ้นไป เพราะปกติทำอาหารทีละเยอะๆ (ใครทำกินไม่เยอะก็ไม่ได้จำเป็นเท่าไรค่ะว่าต้องใหญ่เท่านี้)

อีกอย่างนึงคือฟังก์ชันการใช้งาน (หม้อส่วนใหญ่จะมีฟังก์ชันพื้นฐานใกล้เคียงกัน คือ สามารถทอด, ย่างหรืออบอาหารเพื่อรีดน้ำมันออกมาได้) หลายๆแบรนด์ก็เพิ่มลูกเล่นต่างๆเพื่อเป็นจุดขายและทำให้มีประโยชน์ใช้สอยเพิ่มขึ้น ก่อนซื้อให้ลองเชคว่าสเปกตรงความต้องการรึป่าว

3.ศึกษาข้อดี ข้อเสียของรุ่นนั้นๆ : อันนี้คิดว่าสามารถค้นหาได้ในกูเกิลหรือในกรุ๊ปหม้อทอดในเฟสบุคเลยค่ะ ลองเสิร์ชชื่อยี่ห้อและรุ่นที่เราสนใจน่าจะมีเพื่อนๆมารีวิวไม่มากก็น้อย หลักๆของข้อเสียคือบางรุ่นอาจจะกระจายความร้อนได้ไม่ทั่วถึง, ความร้อนไม่ถึงอุณหภูมิที่ตั้งค่า, มีควัน, ล้างทำความสะอาดยาก เป็นต้น

 


ส่วนข้อดี บางรุ่นจะมีอุปกรณ์เสริมมาให้เยอะ ไม่ต้องซื้อเพิ่ม, กระจายความร้อนได้ดี, อึดอดทน ไม่มีปัญหา เป็นต้นค่ะ

4.ดูบริการหลังการขาย การรับประกัน : เผื่อหม้อเรามีปัญหาในอนาคต คิดว่าควรซื้อแบบมีการรับประกันและเชคด้วยว่าแบรนด์นี้แคลมยากง่ายแค่ไหนค่ะ
5.เชคโปรโมชันต่างๆ : ข้อนี้เป็นทริคเล็กๆที่อาจจะทำให้เราได้หม้อแพงๆในราคาที่ถูกลง (กรณีไม่ได้รีบใช้) ให้ลองหาข้อมูลว่ารุ่นที่เราอยากได้เคยทำโปรโมชันอะไรมาบ้าง เคยลดราคาเป็นเท่าไรในช่วงไหน แล้วคอยเฝ้าตามโปรโมชันค่ะ (วิธีนี้บางทีก็ไม่ได้รับประกันว่าจะได้ราคานั้นๆนะคะ เพราะทางแบรนด์อาจจะยกเลิกโปรแล้วก็ได้) อีกช่องทางคือเชคราคาเทียบกันหลายๆเว็บ แต่ แต่ ให้ดูด้วยนะคะว่าหม้อเป็นของใหม่ไม่มีตำหนิ มีรับประกันและใช้งานได้ปกติ

ด้วยความที่หม้อฮิตมากกกกก ทำให้หลายยี่ห้อขาดตลาดกันไป สิ่งสำคัญก็อย่าลืมเชคว่ามีของมั้ยด้วยนะคะ ไม่งั้นจะเซ็งมาก นั่งหาข้อมูลอย่างดี อยากได้พร้อมซื้อแต่ไม่มีของ ฮ่าๆ

ปล.เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ทำรีวิวเปรียบเทียบหม้อทอดที่เคยใช้สองยี่ห้อไว้ค่ะ เผือใครยังไม่ได้อ่าน https://bit.ly/2WPTsZo

เราไม่จำเป็นต้องมีหม้อที่แพงที่สุด แต่อยากให้ได้หม้อที่คุ้มค่ากับการใช้งานของเราและอยู่ทนอยู่นานมากที่สุดค่ะ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยค่า

*ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต

You Might Also Like