ปอเชื่อหลายๆคนอาจจะเคยไปลาวกันมาแล้ว แต่ปอเชื่อว่าในแต่ละการเดินทางของแต่ละคนจะมีเรื่องราวสนุกๆที่แตกต่างกันออกไปเสมอ  รีวิวนี้ปอตั้งใจทำออกมาเล่าเรื่องราวการเดินทางไปวังเวียงครั้งแรกของปอให้ลองอ่านกัน รับรองว่ามีเรื่องพีคๆหลายอย่างตลอดทริป

ก่อนอื่นเลยอยากเล่าว่าการเดินทางไปวังเวียงมีหลายแบบที่ปอค้นหามา ดังนี้

1. นั่งรถ/บิน ไปลงอุดร (รถบัสปอได้ราคา 450 บาท) แล้วนั่งรถ อุดร-วังเวียง (320 บาท) มีเที่ยวเดียวต่อวัน เวลา 8:30 น. ขากลับจากวังเวียง-อุดรมีเที่ยวเดียว 9:00 น. (200,000 กีบ หรือราวๆ 400 บาท)
2. นั่งรถ/บินไปลงอุดร แล้วนั่งรถข้ามไปเวียงจันทน์ (80 บาท) แล้วหารถจากเวียงจันทน์ไปวังเวียง มีหลายเจ้ามากๆ ปอซื้อจากที่โฮสเทลเลย 250 บาท เป็นรถตู้แบบ 15 ที่นั่ง มีรถตุ๊กๆมารับถึงโฮสเทลด้วย
3. บินไปลงเวียงจันทน์ แล้วหารถไปขนส่งเหนือ นั่งรถตู้/บัสไปวังเวียงต่อ

ตัวปอเองตั้งใจจะไปตามแบบที่ 1 โดย แพลนการเดินทางคร่าวๆ ที่คิดไว้ มีดังนี้

คืนวันศุกร์ นั่งรถ กทม อุดรธานี เที่ยว 22:00 ตามกำหนดจะไปถึงราวๆหกโมงเช้า
เช้าวันเสาร์ พอไปถึงซื้อตั๋วรถบัส อุดรธานี-วังเวียงรอบ 7.30 น ไ
ปถึงวังเวียงประมาณเที่ยง แล้วออกเที่ยวครึ่งวัน
วันอาทิตย์ ซื้อทัวร์เเบบ one-day trip
เช้าวันจันทร์ นั่งรถกลับอุดรธานีรอบ 9 โมงเช้า

จากแพลนก็ดูปกติทั่วไปใช่มั้ยคะ แต่ แต่ แต่ ความเป็นจริงมันไม่ใช่อย่างแพลนเลยค่ะ มาดูกันว่าเรื่องราวเป็นยังไง

ทริปนี้รีบนิดนึงทำให้มีเวลาจัดกระเป๋าค่อนข้างน้อย มาดูกันว่าปอเตรียมอะไรไปบ้าง

กระเป๋าทริปนี้ เบาๆพอ 😀

แต่เราตั้งใจว่าอยากได้รูปสวยๆ ปกติไม่ค่อยได้สนใจแต่งตัวเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้อยากดูเป็นผู้เป็นคนบ้างเลยเตรียมที่หนีบผมฟิลิปส์ moisture protect ไปด้วย ปอทดลองใช้แล้วรู้สึกว่าได้ฟีลผมสวยสุขภาพดี
ฟินกับผลลัพธ์มากค่ะ

 

คนเดียวก็ทำผมได้ 555
ใช้งานง่าย แถมทำผมวอลลุมได้ไม่ยากเลยค่ะ
ข้อดีคือใช้แล้วผมเงางามด้วยนี่แหละค่ะ ที่ชอบบ

ทริปนี้เริ่มต้นตอนค่ำๆวันศุกร์ ปอเดินทางไปหาตั๋วจากสถานีขนส่งหมอชิต ค่าเสียหายหมดไปเกือบห้าร้อยบาท พอได้ตั๋วปุบก็ไปเดินหารถที่จะขึ้นค่ะ

ความพีคต่างๆจะเริ่มต้นหลังจากนี้

มองไปรอบๆ แอบสังเกตว่าบรรยากาศอุ่นหนาฝาคั่งจริงๆวันนี้

ความพีคที่ 1 กำลังจะเกิดขึ้นเมื่อรถดีเลย์ค่ะ กว่าจะได้ขึ้นรถคือ 23:00 ขึ้นไปก็เจอพีคที่ 2 คือได้ที่นั่งตรงห้องน้ำ ทำให้กลิ่นตลบอบอวลมากค่ะ นอนไม่ค่อยหลับเลย (T_T) หลับๆตื่นๆมาจนถึงขอนแก่นแล้ว
พีคที่ 3 ก็เกิดขึ้นเมื่อมาถึงขอนแก่นแล้วรถเสียค่ะ ตอนนั้นคือคิดในใจว่าตกรถไปวังเวียงแน่ๆ เลยมานั่งคิดว่าจะเอายังไงต่อ จนไปถึงอุดรปอก็ตัดสินใจหารถไปเวียงจันทน์แทนเพราะจะได้ไปเที่ยวรอ
สรุปคือ ทริปนี้ปอมีเวลาเย็นวันศุกร์ – วันจันทร์ ยอมรับว่าสั้นมากๆๆ สำหรับลาว แต่มีเวลาน้อยเลือกไม่ได้ แถมรถดีเลย์อีก ทำให้ปอจะมีเวลาที่วังเวียงไม่ถึง 24 ชม!! ทำไงได้ ตั้งใจจะมาแล้ว เราต้องไปให้สุด 555

อยากบอกว่าการไปเที่ยวลาว สามารถข้ามไปได้โดยขอบัตรผ่าน (ใช้บัตรประชาชนทำที่ด่าน เสียเงินเล็กน้อย ปอไม่ทราบราคาที่แน่นอน แต่มีคนบอกว่าประมาณ 100 บาท) แต่จะสามารถอยู่ได้แค่เวียงจันทน์ และไม่เกิน 3 วันเท่านั้น ส่วนของปอเอาพาสปอร์ตไปก็ไม่ต้องดำเนินการอะไรมาก แค่ตอนผ่านแดน ถ้าเป็นวันหยุดหรือเลยเวลาทำการก็เสียเงิน 50 บาท ได้ตั๋วแบบ BTS เดินผ่านไปสบายๆ

ซื้อตั๋วตรงนี้ เดินเข้ามาใน บขส อุดร หาไม่ยากค่ะ
บรรยากาศบนรถบัส อุดร – เวียงจันทน์

ระหว่างทางก่อนข้ามไปลาว ปอนั่งเสิร์ชหาที่พัก บังเอิญไปเจอโฮสเทล Saylomyen รีวิวดีมากๆแถมราคาสองร้อยกว่าบาทเลยหาเส้นทางไว้ มา walk-in เผื่อราคาจะถูกกว่าหน้าเวบ พอมาถึงเวียงจันทน์ก็เดินหาที่พัก เจอที่พักก็ชอบมากๆ รีเซปชั่นชื่อน้องบิ๊ก คุยกันยาวเลย เพราะน้องคุยไทยกับเราคล่องปร๋อเลย

น้องบิ๊กคุยสนุกจนลืมเวลา
โฮสเทลคืนนี้

มัวแต่เม้ามอย รู้ตัวอีกทีคือเริ่มมืดแล้ว 55 ท้องเริ่มร้องเลยไปหาของกิน เดินมั่วไปเจอร้านข้าวเปียกน่ากินมากเลยแวะเข้าไปลิ้มลอง อยากบอกว่าไม่ผิดหวังจริงๆ ข้าวเปียกหมูกรอบร้านนี้ถูกและดีมากกกก ทั้งหมดนี้ 12,000 กีบเอง

จัดไปชุดนี้มื้อนี้ 12,000 กีบ

ในที่สุดวันนี้ก็จะได้ไปวังเวียงสักที ได้แต่คิดในใจว่าจะมีใครเที่ยวแบบรวบรัดขนาดนี้มั้ย 555 ได้เที่ยววังเวียงน้อยกว่า 24 ชม

ตื่นมาอาบน้ำสระผม มีตัวช่วยเป็นที่หนีบผมฟิลิปส์ มาดูกันว่าจะอยู่ทรง จะทนการผจญภัยของปอได้มั้ย วันนี้ตั้งใจไปเดินเล่นรอบประตูชัย ปอโชคดีมากเจอสาวฟิลิปปินส์นอนห้องเดียวกันเลยขวนกันเดินมาถ่ายรูปเล่น เพราะเค้าก็มาคนเดียวเหมือนกัน เลยได้รูปดีๆกับเค้าบ้าง อิอิ

รูปภาพมุมบังคับที่เกือบทุกคนจะถ่ายเมื่อมาเวียงจันทน์ 😛

น้องบิ๊กบอกว่ารถจะมารับตอนเก้าโมง บริษัทรถนี้มีรถตุ๊กๆมารับถึงที่พักเพื่อไปจุดจอดรถเลย พอถึงเวลาก็เจอโอปป้าและสาวเกาหลีจำนวณมากมาขึ้นรถตู้ไปด้วยกัน

ตุ๊กๆที่มารับจากโฮสเทล

นั่งรถแบบปวดเมื่อยไปสาม ชมครึ่ง มีแวะพักรถหนึ่งครั้งโดยสามารถซื้อของกินและเข้าห้องน้ำได้ รถไปจอดที่ท่ารถหรือ บขส ของวังเวียงราวๆบ่ายโมงครึ่ง

ถ้าขึ้นรถยิงยาวจากอุดรมาจะเป็นคันนี้

หลังจากนั้นก็ไปหาที่พัก โดยปอตั้งใจว่าไหนๆก็มาแล้วอยากนอนริมน้ำซอง เลยไปพักที่ Silver naga hotel ได้ราคาคืนละ 1100 บาท รวมอาหารเช้า ก็ถือว่าโอเคนะคะเฉลี่ยกับค่าโฮสเทลเมื่อคืนแล้วงบที่พักยังโอเคอยู่ มาดูกันว่าวิวที่โรงแรมแจ่มมั้ย

พอได้ที่พักถูกใจก็ไปเดินเล่นชมเมืองรอบๆ อยากบอกว่าฟีลแรกตั้งแต่มาถึงคือคนเกาหลีเยอะมากกกกกกกก มากแบบปอคิดว่าเยอะกว่าคนลาว 555 คนที่นี่บอกว่ามีดาราเกาหลีมาที่นี่เลยทำให้วังเวียงบูมแล้วคนตามมาเที่ยวเยอะมาก

มาถึงการคิดที่ท่องเที่ยว จริงๆหาไม่ยากนะคะถ้าสมมติอยากสบายๆก็สามารถซื้อทัวร์ one-day trip ได้ จะมีคนตั้งโต๊ะขายอยู่เรียงรายเต็มใจกลางเมือง ราคาต่อรองกันตามความพึงพอใจ (แนะนำให้ต่อสักหน่อยนะคะ) หรือใครชอบอิสระอยากเที่ยวเองก็สารถเช่ามอเตอร์ไซด์แล้วขับรถเที่ยวได้ (ราคาต่อวัน 50,000 – 80,000 กีบ แล้วแต่ร้านและรถ) รถ ATV ก็มีนะคะ แต่ราคาค่อนข้างสูง

ปอดูรีวิวมาหลายอันแต่สถานที่ท่องเที่ยวที่สนใจมากๆ 2 ที่คือ Blue lagoon กับ ผาเงิน (เนื่องจากเวลามีไม่เยอะด้วย) ปอเลยไปหาที่เช่ารถมอเตอร์ไซด์ แต่ทำไปทำมาเค้าเสนอว่าจะพาขับเที่ยว ขอคิด 100,000 กีบ ไม่รวมค่าเข้าที่ต่างๆ ปอคิดว่ามันก็ราคาโอเคเพราะอยากคุยกับคนลาวเรื่องประเทศเค้า แล้วก็อ่านมาว่าถนนที่นี่บางจุดขับยากนิดนึง ปอได้ประหยัดเวลางมหาทางด้วย เลยตกลงจะเช่ารถและจ้างคนขับในราคา 100,000 กีบ (สามารถเลือกที่เที่ยวเองได้เลย)  ปอเห็นว่าวันนี้อากาศดีเลยตกลงไปบลูลากูนกับผาเงิน (ดูพยากรณ์มาว่าพรุ่งนี้ฝนจะตก)

คนพาเที่ยววันนี้ชื่อโกะ เป็นหนุ่มลาวน่ารักวัยละอ่อน เเม่เค้าขายโรตีอยู่กลางๆเมือง ปอได้พูดคุยกับโกะเกี่ยวกับคนลาวหลายอย่าง โกะเกิดและโตที่วังเวียง แต่ต้องไปทำงานที่ต่างเมืองที่โรงงานจีนเพื่อหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัว โกะบอกว่าคนลาวรายได้ไม่สูงนัก แต่คนส่วนใหญ่ก็อยู่ได้เพราะเค้าทำการเกษตร อยู่แบบพอเพียง คนลาวส่วนใหญ่รักความสงบและอยู่กับธรรมชาติ

โกะ และ ปอผู้สาวขาเลาะ 55

ตัวโกะเองพูดอังกฤษไม่ได้เลยทำงานที่วังเวียงไม่ได้ ส่วนน้องชายโกะพูดอังกฤษเก่ง เลยทำงานด้านท่องเที่ยว ขายทัวร์ และตั๋วต่างๆให้นักท่องเที่ยว วันนี้โกะดีใจที่ได้พาเที่ยวเพราะโกะได้มีรายได้เสริมช่วยครอบครัว โกะบอกปอโชคดีนะที่เจอโกะ เพราะปีนึงโกะกลับบ้าน 2 ครั้งเอง 😀

เราเริ่มจุดแรกกันที่ผาเงิน เพราะต้องใช้พลังในการปีนนิดนึง ตัวผาเองไม่ใช่ผาที่สูงที่สุดในวังเวียง แต่วิวนั้นสวยบาดใจจริงๆ

ทางขึ้น และซื้อตั๋วที่นี่

 

วิวระหว่างทางขึ้นไป
สุดท้ายพอมาถึงยอด ความเหนื่อยที่มีก็หายไปหมดเกลี้ยง ลมเย็นๆ แถมข้างบนมีร้านขายน้ำขายขนมด้วย ตกใจมาก 555

ลมโกรกเบาๆ แต่ผมเราก็ยังเป็นทรงอยู่ เพราะใช้เครื่องหนีบผมฟิลิปส์ที่เตรียมมา อิอิ

วิวที่นี่สวยลืมหายใจจริงๆ ปอกับโกะนั่งเล่นอยู่พักใหญ่ก่อนลงไปมุ่งหน้าไปบลูลากูนต่อ
ระหว่างทางก็เป็นทุ่งนาสวยๆ โกะบอกตอนนี้ยังไม่สวยที่สุด ให้ปอกลับมาใหม่อีก 2-3 เดือน ข้าวจะออกรวงสวยกว่านี้อีก

หลังจากนั้นก็มุ่งหน้าไปบลูลากูนกันต่อ สภาพตอนนี้คือเราเหงื่อท่วมตัวมาก ได้มาเเช่น้ำเย็นๆก็ชื่นใจมากเลย

ภาพนี้มุมนี้ที่ทุกคนจะเห็นตามรีวิวต่างๆ

เล่นน้ำประมาณ 2 ชั่วโมงปอก็กลับที่พัก อาบน้ำพักผ่อนค่ะ วันนี้ตอนกลางคืนกะไปซากุระบาร์แต่แอบเหนื่อย เลยหาของกินในเมืองแทน

เนื้อย่างกับไส้กรอกอีสาน ร้านตำระเบิด
เบเกอรี่ร้าน หลวงพระบางเบเกอรี่ (อร่อยหลายอย่างเลย)

กินอิ่มก็มานอนหลับเพราะวันรุ่งขึ้นต้องจากที่นี่ไปซะแล้ว ฮือออ จะมีใครเที่ยววังเวียงน้อยกว่า 24 ชม แบบนี้มั้ย คงไม่น่ามี 555 ไว้คราวหน้าต้องไม่ตกรถ และจะกลับมาจัดเต็มแน่ๆ รักนะวังเวียงงงงง <3

ก่อนกลับ ดูวิวจากที่พักร่ำลาเเม่น้ำซอง

 

You Might Also Like