สวัสดีค่า ห่างหายจากการรีวิวไปพักนึง วันนี้กลับมารีวิวแบบสั้นๆ สามประเทศในยุโรปที่มักจะโดนเมิน (ไม่ค่อยมีคนสนใจไปเที่ยวนั่นเอง) หลังจากที่ปอเจอตั๋วถูกมาก (อีกแล้ว การเดินทางบางทีก็โดนดึงดูดด้วยตั๋วราคาถูก 55) จาก London ไป Skopje (เมืองหลวงประเทศมาซิโดเนีย) กับสายการบิน wizzAir ราคา ราวๆ 1,500 บาท แล้วก็พยายามหาตั๋วกลับแบบแรนด้อมจากประเทศแถบนั้น โดยไปเจอตั๋วที่บินจาก Bucharest (เมืองหลวงประเทศโรมาเนีย) มาลอนดอนด้วยราคาราวๆ 4,500 บาท พอค้นหาข้อมูลไปมา เอ้อ เราสามารถเดินทางโดยรถบัสจากมาซิโดเนียไปบัลแกเรียแล้วไปโรมาเนียได้ แล้วทริปใจง่ายนี้ก็ผุดขึ้นมา

เมืองที่ไปคือ Skopje (Macedonia) – Sofia (Bulgaria) – Bucharest-Sinaia-Brasov-Bran (Romania)
งบที่หมดไป ราวๆ 20,000 บาท
การเดินทาง – รถไฟ, รถบัส, รถเมล์
วีซ่า: สามารถใช้วีซ่าเชงเก้นแบบ multiple entries เข้าได้ค่า

โดยที่หาข้อมูลก่อนไปเที่ยวไปได้ไม่เยอะนัก กะว่าไปชิวๆทริปนี้ไปเรื่อยๆ แล้วความสนุกสนานก็เกิดขึ้นค่ะ 😀

(ทริปนี้ปอต้องต่อเล่มพาสปอร์ตเพราะเล่มเก่าหน้าหมดแล้วค่ะ)

Macedonia เห็นแบบเนี้ย ไม่เพลียนะจ๊ะ 

ประเทศแรกของการเดินทางทริปนี้คือ Macedonia ค่ะ ปอบินไปถึงค่อนข้างดึกเกือบตีหนึ่ง เลยติดต่อกับทางโฮสเทลว่าขอให้แทกซี่มารับ (ราคา 20 ยูโร แพงกว่าค่าโฮสเทลอีก ให้ตายสิ 555) พอไปถึงสนามบินเมือง Skopje “Alexander the Great” airport รู้สึกแอบทึ่งที่ดูใหญ่โตและใหม่ ทันสมัยมาก

 

หลายประเทศที่ไปมา ถ้าเป็นเมืองเล็กๆสนามบินจะน่ารักจุ๋มจิ๋มมาก แต่ที่นี่ไม่ใช่ ยืนมองหาคนขับแทกซี่อยู่เกือบครึ่ง ชม กว่าจะหากันเจอด้วยความที่คุณลุงหาปอไม่เจอ แล้วถอนใจขับรถกลับ (เห้ยยยย) 55 เดชะบุญที่สนามบินมีไวไฟปอเลยอีเมล์ถามโฮสเทล สรุปคุณลุงขับรถกลับมารับ เกือบไปแล้วมั้ยละ เกือบได้นอนสนามบินกันตั้งแต่ต้นทริป ใช้เวลาราวๆครึ่งชั่วโมงก็มาถึงที่พักท่ามกลางฝนที่ตกลงมา (ให้มันได้ยังงี้สิ 555 ) พอมาถึงโฮสเทลก็หลับเลยค่ะเพราะดึกมากแล้ว ยังไม่ทันได้สำรวจอะไรมากเท่าไร กะว่าจะอยู่ที่นี่สักสองคืน เพราะค่อนข้างอยู่ใกล้สถานที่เที่ยวและราคาถูกค่ะ อ้อที่นี่ใช้สกุลเงิน Dinar นะคะ สามารถพก ยูโร, ดอลล่า มาแลกได้ แต่แนะนำว่าเป็นยูโรดีกว่าค่ะ เรต 1 ยูโร ประมาณ 50 dinar ค่ะ ช่วง ตค 2015)

มารู้จักประเทศนี้คร่าวๆกันก่อนดีกว่าค่ะ ก่อนจะเริ่มออกสำรวจเมืองวันพรุ่งนี้

1) ประเทศนี้อยู่ตรงไหน?
– อยู่ในยุโรปค่ะ ถ้าเปิดแผนที่ดูจะเห็นว่าอยู่ติดกับประเทศบัลแกเรีย, อยู่ด้านบนประเทศกรีซค่ะ ประเทศไม่ใหญ่นัก เมืองหลวงชื่อ skopje
2) เที่ยวเองลำบาก/ยากมั้ย?
ถามว่ายากมั้ยก็ไม่ได้ยากมากนะคะ อาจจะมีปัญหาเรื่องของภาษาเวลาหาป้ายหรือหาทาง (ปออ่านป้ายออกเพราะเขียนเหมือนภาษารัสเซีย แต่พูดกับคนที่นี่ไม่รู้เรื่องค่ะ เพราะใช้คนละภาษากัน) แต่ด้วยความที่สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองอยู่ไม่ไกลกันนัก และเมืองก็ไม่ได้ใหญ่มาก ทำให้ปอไม่คิดว่ายากเกินไปค่ะ แม้ว่าจะอ่านไม่ออกก็ตาม สามารถลองเทียบตัวอักษรได้อยู่ (ถ้าใครเคยไปเที่ยวรัสเซียเองน่าจะพอเข้าใจหลักการทำนองนี้นะคะ) ที่นี่รถเมล์ดีค่ะ ราคาไม่แพง นั่งออกไปนอกเมือง ราวๆ 30 กม ค่ารถไปกลับ 1.2€ ค่ะ, taxi ก็มีให้เลือกใช้บริการ ราคาเริ่มต้นที่ราวๆ 25 บาทแล้ววิ่งตามมิเตอร์ค่ะ
3) ใช้วีซ่ามั้ย?
สามารถขอวีซ่าจากสถานทูตมาซิโดเนีย หรือ สามารถใช้วีซ่าเชงเก้นแบบท่องเที่ยว multiple entries เข้าได้เลยค่ะ
4) แพงมั้ย?
ที่นี่ค่อนข้างถูกมากเมือเทียบกับประเทศอื่นๆในยุโรปค่ะ โฮสเทลก็หาได้ราคา 7-10€ อาหารถ้าเข้าร้านทั่วไปจานหลักตกอยู่ที่ราวๆ 4-5€ ค่ะ
5) ผู้หญิงคนเดียวเที่ยวเองอันตรายมั้ย?
ปอคิดว่าที่นี่ค่อนข้างปลอดภัยนะคะ ผู้คนก็ใจดี พยายามช่วยเหลือ ไม่มีฉกชิงวิ่งราว แต่มีเด็กมาขอเงินบ้าง เจอไม่กี่คนค่ะ

เช้าวันถัดมา ปอดูแผนที่เมืองจากผนังที่โฮสเทลและข้อมูลที่เที่ยวต่างๆ

 

โดยสอบถามว่ามีที่ไหนน่าสนใจบ้าง สรุปว่าจะไปเดินเล่นที่จัตุรัสกลางเมืองและสำรวจเมืองแบบชิวๆค่ะ (แอบถ่ายรูปแผนที่ไว้เผื่อหลงทาง) แล้วก็ออกสำรวจเมืองค่า …. จากที่พักแค่เดินข้ามถนนก็จะเจอ Kale fortress เลยค่ะ ปอเดินมั่วๆ ตามเจ้าสิงโตไปทางเดินริมแม่น้ำ

 

 

เจอแมวน้อยเดินตามค่ะ วิ่งหนีก็วิ่งตามเลยนั่งเล่นกับมันแปบนึง

 

 

เจอคนเดินผ่านไปมา เลยขอให้เค้าช่วยถ่ายรูปเราให้หน่อยเพราะวันนี้ไม่ได้เอาขาตั้งกล้องมา  ปรากฏเค้าถ่ายรูปนี้ให้ (เอิ่ม -0-)

 

แล้วสุดท้ายก็ได้รูปดีๆมาค่ะ 555 คนเมืองนี้ก็แอบฮาได้อีก ดูอารมณ์ดี ใจดีค่ะ

 

หลังจากนั้นก็ใช้สกิลการเดินมั่วอีก มั่วไปมั่วมาเปิดแผนที่ที่เซฟมา สรุปสุดท้าย แท้แด…. มาถึงแล้วจัตุรัสกลางเมือง Macedonia square สังเกตได้จากอนุสาวรีย์ Alexander the Great

 

 

โดยรูปปั้นได้ถูกสร้างขึ้นที่ Florence แล้วนำมาที่นี่เพื่อฉลองวันครบรอบ 20 ปีที่ประเทศได้รับเอกราชค่ะ ของจริงนั้นใหญ่เว่อวังอลังการมาก เห็นครั้งแรกแล้วแอบทึ่งค่ะ (ประเทศนี้ทำให้ทึ่งหลายรอบแล้ว) อาจจะเป็นเพราะก่อนมาไม่รู้ว่ามันมีอะไรบ้าง พอมาเจอของดีเลยประทับใจแบบนี้ค่ะ ฮ่าๆ แล้วใกล้ๆกับนั้นก็เป็น Stone bridge สะพานที่โด่งดังเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองนี้

 

โดยสะพานนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยไบแซนไทน์ เป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างจัตุรัสกลางเมืองและ Old bazaar ค่ะ บริเวณรอบๆนี้ยังมีสถานที่สำคัญที่เป็นอาคารใหญ่โตและน่าสนใจอีกมากมายค่ะ รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ Archeology ของเมืองนี้ด้วย

 

หลังจากนั้นปอก็ลองเบนเข็มไปอีกทิศหนึ่งของเมือง ลองเดินสำรวจเมืองเพราะดูจากเเผนที่ สถานที่ท่องเที่ยวก็อยู่ไม่ไกลกันนัก แถมเมืองก็ไม่ได้ใหญ่มาก เดินมาเจอ Memorial house of mother Teresa ค่ะ แต่ไม่ได้เข้าไปเพราะตอนนั้นยังไม่เปิดทำการ

 

จากนั้นเดินต่อมาผ่านถนนที่มีร้านอาหารเยอะๆ สองข้างทาง

 

เดินไปเดินมาเจอห้าง ก็เข้าไปสำรวจสักหน่อยค่ะ ชื่อ Ramstore mall

 

 สินค้าดูไม่ค่อยมีอะไรมากที่ห้างนี้ แต่มีร้านแลกเงินที่ให้เรตค่อนข้างดีอยู่ค่ะ (ปอเดินหาร้านแลกเงินไปใช้ที่บัลแกเรีย) แล้วก็พยายามเดินตามแผนที่กลับที่พัก เนื่องจากรู้สึกออกมาไกลจากวงโคจรแล้ว 55 เดินผ่านโบสถ์นี้ค่ะ สวยดีเลยเก็บภาพไว้

 

ระหว่างทางก็เหลือบไปเห็นรถเมล์ค่ะ ที่นี่มีรถเมล์แบบที่อังกฤษด้วย รถเมล์แดงสองชั้น เห็นแล้วรีบเก็บภาพไว้เลยค่ะ 

 

 

แล้วโปรแกรมของวันแรกก็จบลงราวๆ 5 โมงเย็นปอก็กลับไปพักที่โฮสเทลเพราะค่อนข้างเหนื่อยจากเมื่อคืน ไปถึงโฮสเทลก็นั่งเม้ามอยกับคนจากชาติอื่นๆในห้องครัว แล้วก็ไปเจอกลุ่มนักขี่มอเตอร์ไซด์ที่แนะนำสถานที่น่าเที่ยวให้ปอลองไปดูวันพรุ่งนี้ สถานที่นี้ก็คือ Matka canyon ค่ะ ปอดูภาพเเล้วก็ตัดสินใจเลยว่าพรุ่งนี้จะไป เพราะถามคนที่โฮสเทลบอกว่านั่งรถเมล์ไป 40 นาทีเอง (จริงๆมี 1 day trip tour ขาย แต่ราคาตั้ง 25 ยูโร ซึ่งปอคิดว่าไปเองถูกกว่ามากๆค่ะ เลยจะไปแบบคนท้องที่เลย)
เช้าวันรุ่งขึ้นปอดูตารางรถแล้วเดินไปที่ป้ายรถเมล์ซึ่งไม่ไกลจากโฮสเทลเท่าไรค่ะ เห็นป้ายรถเมล์แล้วแอบอึ้ง 55

 

ซึ่งราคาตั๋วรถเมล์ไป matka ไปกลับ ราวๆ 70 dinar (1.2 ยูโร) เองค่ะ taxi จะคิดราคาประมาณ 10 ยูโร ถ้ามาหลายคนเหมาไปก็อาจจะคุ้มนะคะ พอรถเมล์มาถึงก็รีบขึ้นอย่างไว เพราะรถคันถัดไปรออีกเกือบชั่วโมง

 

ระหว่างยืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ก็มีคุณป้าถามไถ่ว่าจะไปไหน เราก็ตอบไปว่า Matka (เค้าพูดอังกฤษไม่ได้หรอกนะคะ เราสื่อสารกันด้วยภาษารัสเซียเป็นคำๆค่ะ 55) ที่นี่มีภาษาเป็นของตัวเองแต่คำศัพท์หลายคำใช้คำเดียวกับภาษารัสเซีย ปอเลยพอจะถูๆไถๆ คุยกับคนได้บ้าง

 

ระหว่างทางที่นั่งรถเมล์คนก็แอบมองๆมาที่ปอค่ะ คงแปลกใจ ผญ หน้าเอเชียคนนี้มาจากไหน 55 แล้วก็มีคุณลุงคนนึงอายุน่าจะสัก 65 มานั่งข้างๆ ขอตั้งชื่อว่าคุณลุงประเสริฐค่ะ ลุงและปอสื่อสารกันด้วยคำศัพท์ภาษารัสเซีย และ บอดี้แลงเกวจ ลุงบอกว่าลุงเป็นตำรวจแต่วันนี้เป็นวันหยุดแล้วกำลังจะกลับบ้าน สรุปปอเข้าใจมั่งไม่เข้าใจมั่ง แต่ลุงแกก็จะไป Matka เหมือนกัน ลุงทำไม้ทำมือบอกว่าบ้านลุงอยู่ที่นั่นแล้วเดี๋ยวพาเที่ยว สรุปลุงพาเดินจริงๆค่ะ

(เซลฟี่กับคุณลุงประเสริฐ)

แถมถ่ายรูปเราให้ด้วย ไม่มีบ่นสักคำ 555 สงสารคุณลุงต้องมาเดินกับปอ ที่นี่มีทางเดินลัดเลาะริมน้ำไปเรื่อยๆยาวตั้ง 5-6 กิโล ก่อนถึงทางเข้าจะเจอเขื่อนตรงนี้ก่อนค่ะ

 

เห็นแวบแรก สวยมากเลยค่ะ บรรยากาศร่มรื่น เดินสบายๆไปได้เรื่อยๆเลย

 

(ภาพปอถ่ายโดยคุณลุงประเสริฐค่ะ)

 

 มีร้านอาหารและโรงแรมอยู่ตรงกลางทางเดินไป canyon

 

และมีโบสถ์ตั้งอยู่ด้วยค่ะ

 

 

ลุงถามใหญ่จะเดินไปจนสุดเลยไหม ปอก็แบบว่า เกรงใจลุงเดินไปประมาณ 2 กิโลก็บอกว่าเดี๋ยวต้องกลับให้ถึงโฮสเทลก่อนมืด เพราะพรุ่งนี้เช้าตั้งใจจะขึ้นรถบัสรอบ 8 โมงเช้าไปบัลแกเรีย ลุงเลยบอกโอเค หิวไหม อยากนั่งเรือไปถ้ำไหม

 

เราก็บอกไม่เป็นไรลุงเกรงใจมาก พอใกล้ๆสี่โมงครึ่งเราเดินกลับมาเพื่อจะรอขึ้นรถเมล์ (มาทุกๆชั่วโมง) เวลาเหลือลุงเลยชวนไปนั่งรถรถเมล์ที่บ้านเพราะฝนกำลังจะตกเราก็โอเคเพราะไม่มีร่มแล้วลุงแกก็ดูไม่มีพิษมีภัยอะไร ลุงแกโชว์บัตรตำรวจให้ดูด้วย เราก็ตั้งใจว่าจะอยู่นอกบ้านไม่เข้าบ้าน แค่นั่งรอรถเมล์กลับในเมืองเท่านั้น  หลังจากตกลงไป ลุงเรียกแทกซี่ไปส่งที่บ้านจากตรงทางออกเลยจ้า ลุงบอก 10 นาทีถึง ลุงมีบ้านจริงๆ 555 มีต้นหมากรากไม้เยอะเลย
ลุงบอกว่าเมียแกไปทำงานที่ปราคตอนนี้ ลูกสาวไปเรียนอีกเมืองหนึ่งที่ไกลๆ เราก็นั่งฟังชีวประวัติลุงแบบเข้าใจงูๆปลาๆ ไปนั่งอยู่ตรงเพิงหน้าบ้านลุง ลุงแกก็ดี๊ดี เอาผลไม้จากสวนที่บ้าน และถั่วมาต้อนรับยกใหญ่
มีมาปอกเปลือกให้ด้วยนะคะ

 

บอกห้องน้ำอยู่ตรงนี้นะ ถ้าหนาวบอกเดี๋ยวเอาผ้าห่มมาให้ นั่งคุยไปมาน่าสงสารลุงนะคะเหมือนแกเหงาๆ เพราะลูกเมียไปอยู่ที่อื่นกันหมดเลย พอถึงเวลารถจะมาลุงแกก็พาเดินไปที่ป้ายรถเมล์ค่ะ ดีใจมากเพราะฝนหยุดพอดี นึกว่าลุงแกแค่จะช่วยซื้อตั๋วให้ สรุปแกนั่งไปด้วยค่ะ ไปส่ง ตอนนั้นตกใจมากคือลุงจะดีไปไหนคะ พอไปถึงป้ายรถเมล์ป้ายสุดท้าย คือเป็นท่ารถบัสหรือ บขส

 

ลุงแกก็พาไปซื้อตั๋วช่วยถามไถ่อย่างดี แถมจะจ่ายค่าตั๋วให้เราอีก เราบอกลุงไม่ต้องค่ะ หนูเกรงใจ ยื้อกันไปมาอยู่สักพักสุดท้ายลุงแกออกให้ครึ่งนึง (ลุงประเสริฐจริงๆ)

 

พอได้ตั๋วก็เดินทางกลับโฮสเทลค่ะ ได้รอบ 8 โมงเช้าตามที่ตั้งใจไว้ ระหว่างทางกลับซึ่งเป็นเวลาเย็นๆค่ำๆ ลุงแกก็ถามอีกว่าหิวมั้ย เราก็ว่าจะเข้าไปซื้อขนมเป็นอาหารเช้าไว้กินบนรถ ลุงประเสริฐแกก็จ่ายเงินให้อีก โอย ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาขอบคุณแล้วค่ะ ลุงแกไปส่งยันทางเข้าโฮสเทลแล้วก็บอกลากัน ปอฝากรีเซปชั่นโฮสเทลช่วยแปล บอกลุงว่าขอบคุณมากๆจริงๆสำหรับวันนี้ แล้วก็บอกลาคุณลุงประเสริฐ พร้อมกับเข้าพักเตรียมตัวตื่นเช้าไปบัลแกเรียพรุ่งนี้ค่ะ

สิ่งที่ได้รับจากการเที่ยวมาซิโดเนียคงจะเป็นความประทับใจหลายๆอย่างทั้งสถานที่เที่ยว และผู้คนที่ใจดี ไม่มีใครคิดจะเอาเปรียบนักท่องเที่ยวนัก เมืองนี้ดูเหมือนได้รวมสิ่งต่างๆที่มาจากประเทศอื่นไว้หลายอย่างดีค่ะ รู้สึกดีใจที่เลือกมาที่นี่เพราะถ้าไม่มาก็นึกภาพไม่ออกเหมือนกันว่ามาซิโดเนียจะมีอะไร ที่สำคัญมาเจอคุณลุงประเสริฐอีก ยิ่งทำให้ประทับใจประเทศนี้มากๆค่า ถ้าให้กลับไปอีกก็ยินดีไปนะ ประเทศเล็กๆที่คนเมินประเทศนี้ มาซิโดเนีย 😀

ตอนหน้ารอพบกับบัลแกเรียและโรมาเนียนะค้าาา

 

 

You Might Also Like