“วันเพ็ญเดือน 12 น้ำก็นองเต็มตลิ่ง เราทั้งหลายชายหญิงสนุกกันจริงวันลอยกระทง” … เสียงเพลงนี้คงเป็นที่คุ้นหูทุกปีเมื่อวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 มาบรรจบครบรอบอีกครั้ง วันนี้อยากนำเสนออีกหนึ่งวันที่หลายคนรอคอย ซึ่งวันที่ปอจะกล่าวถึงในบทความนี้ก็คือ“วันลอยกระทง” (ไม่หลงทาง)นั่นเอง
วันลอยกระทงถือเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่สร้างสีสันและความรื่นเริงสนุกสนานให้กับคนไทย อย่างที่เราทราบกันว่า ประเพณีนี้เป็นประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย จากหนึ่งในตำนานประเพณีลอยกระทงได้กล่าวถึง นางนพมาศ (สนมเอกของพระร่วงเจ้ากรุงสุโขทัย) เป็นผู้คิดริเริ่มทำกระทงรูปดอกบัวเพื่อถวายพระร่วงให้ทรงนำไปลอยตามสายน้ำ และต่อจากนั้นมาก็ได้มีการสืบสานประเพณีจากรุ่นสู่รุ่นจวบจนมาถึงสมัยปัจจุบัน วัตถุประสงค์หลักของการลอยกระทงคือจัดขึ้นเพื่อขอขมาแก่พระแม่คงคาที่เราได้กินได้ดื่มน้ำและรวมไปถึงการทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ และมีความเชื่อที่ว่าเป็นการลอยทุกข์ลอยโศกโรคภัยไปกับสายน้ำ โดยจะนิยมทำกระทงจากวัสดุต่างๆ (ต้นตำรับที่คุ้นตาเป็นกระทงที่ทำมาจากใบตองและต้นกล้วย ปอเคยทำกระทงไปลอยเองตอนเด็กๆเหมือนกันค่ะ ทำยากเหมือนกันนะคะถ้าจะให้สวย ต้องมานั่งพับใบตองจับจีบ ตกแต่งอีกอะไรอีก) ถ้าถูกต้องตามหลักก็จะมีการตัดเล็บ เส้นผม หรือใส่เหรียญลงไปในกระทงด้วย แต่ก็ดูเหมือนการทำกระทงมีพัฒนาการประยุกต์สร้างสรรค์มากขึ้นในทุกๆปี ไม่ว่าจะเป็น กระทงขนมปัง กระทงพลาสติค กระทงกะลา กระทงเปลือกข้าวโพด กระทงดอกไม้ ฯลฯ (ปออยากให้เลือกวัสดุที่ย่อยสลายได้นะคะ) เพื่อไปลอยตามสถานที่ต่างๆ หลายปีที่ปออยู่ต่างประเทศในช่วงงานลอยกระทงก็มีจัดงานกันเองสนุกสนานในต่างแดนเหมือนกันค่ะ แถมช่วงลอยกระทงหนาวด้วย เรียกได้ว่าเอาไปลอยกันบนหิมะเลยทีเดียว
ปัจจุบันนี้มีการจัดงานลอยกระทงอย่างยิ่งใหญ่ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ แต่ละภาคก็อาจจะมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปไม่ว่าจะเป็น ภาคเหนือที่เรียกว่า “ยี่เป็ง” หรือลอยโคม, ภาคอีสานที่เรียกว่า “สิบสองเพ็ง” รวมไปถึงการประกวดนางนพมาศ, การประกวดกระทง หรือแม้แต่การลอยโคมในหลายแห่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยและเทศให้มาร่วมเทศกาลมากมายในทุกๆปี ที่ปอชอบและอยากไปสัมผัสด้วยตัวเองก็คือเทศกาลลอยโคมยี่เป็งค่ะ พลาดมาตลอดเลย แฟนเพจคนไหนใจดีช่วยพาไปหน่อยนะคะ
และในปีนี้วันลอยกระทงก็ตรงกับวันพุธที่ 25 พฤศจิกายน 2558 (น่าเสียดายที่อยู่กลางสัปดาห์เลย อาจจะทำให้ต้องลอยกระทงในพื้นที่ละแวกใกล้เคียงบ้านตัวเองเนอะ) ปอคิดว่าเพื่อนๆอาจจะกำลังมองหาสถานที่ลอยกระทงเก๋ ๆ ไม่ว่าจะไปเป็นเดี่ยวเป็นผู้หญิงคนเดียวก็ลอยกระทงได้ ไปเป็นคู่หรือไปเป็นหมู่ก็น่าสนใจทั้งนั้น วันนี้อยากนำเสนอไอเดียสถานที่ลอยกระทงบางส่วนในกรุงเทพฯไว้ให้เพื่อนๆลองเลือกดูนะคะ
สถานที่ลอยกระทงที่แรกที่ปอสนใจก็ คือ
1.เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์
นาทีนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของชาวกรุงอีกหนึ่งที่ เนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแสนเก๋ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำสายหลักของกรุงเทพมหานคร มีร้านอาหารไทยเทศมากมาย รวมไปถึงร้านค้าให้เดินจับจ่ายเพลิดเพลิน ประกอบกับทางเดินริมแม่น้ำบรรยากาศดี ๆ ที่มีความยาวกว่า 300 เมตร ทุกครั้งที่กลับไทยปอก็ไม่พลาดไปกินไปช้อปชิลๆที่นี่เหมือนกัน เอเชียทีคสามารถจัดงานเทศกาลลอยกระทงได้อย่างน่าสนใจในทุก ๆ ปี และ ยังเป็นส่วนหนึ่งของงาน River festival 2015โดยปีนี้มาในคอนเซปต์ “รักษ์นะ..สายน้ำ 7 ท่าน่ารักใน7 พื้นที่หลัก อาทิเช่น วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม, วัดอรุณราชวราราม, ท่ามหาราช เป็นต้น ซึ่งจะจัดตั้งแต่วันที่ 21-25 พฤศจิกายน 2558 ตั้งแต่เวลา 16.00-23.00 มีเรือฟรีให้บริการทั้ง 7 ท่าตามแผนที่ล่องเรือ และมีการเปิดให้ลงทะเบียนร่วมงานเพื่อรับของที่ระลึกด้วยค่ะ
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก https://www.facebook.com/riverfestivalthailand/
2.สวนลุมพินี
อีกหนึ่งสถานที่ลอยกระทงสุดฮิตของชาวกรุง ด้วยความที่เป็นสวนสาธารณะหลักของกรุงเทพและภายในมีบึงขนาดใหญ่ ทำให้หลายคนเลือกที่จะไปลอยกระทงในปอดของกรุงเทพแห่งนี้ เราจะได้ทั้งบรรยากาศที่เขียวขจีและในตอนกลางคืนได้เห็นแสงไฟจากตึกสวย ๆ บริเวณรอบ ๆ อีกด้วย ซึ่งไม่ไกลกันจากสวนลุมพินีโรงเเรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ที่มีห้องอาหาร 7 แห่ง ให้บริการอาหารตะวันตก อาหารเอเชีย และอาหารนานาชาติ
ห้องอาหาร The Mayflower โดดเด่นด้านเมนูกวางตุ้งรสเลิศ และห้องอาหาร The Pavilion เปิดบริการตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะเทศกาลลอยกระทงที่จะถึงนี้ มีโปรโมชั่นเซ็ทอาหารมื้อค่ำ ที่ห้องอาหารเบญจรงค์ และ 22 Kitchen & Bar ค่ะ มีวงดนตรีแสดงสด ทั้ง 2 ห้องอาหาร และกิจกรรมประกวดกระทง โดยทางห้องอาหารจะเตรียมกระทงเปล่าและดอกไม้ไว้ให้แขกได้ตกแต่งเอง และนำมาลอยได้ที่บริเวณน้ำตกของโรงแรมค่ะ ราคาที่ห้องอาหารเบญจรงค์ 2,000 บาท++ ต่อท่าน และที่ห้องอาหาร 22 Kitchen & Bar 2,200++ ต่อท่าน ให้เลือกฉลองเทศกาลลอยกระทงกับครอบครัวหรือคนที่คุณรัก หากเหนื่อยเมื่อยล้าจากการลอยกระทงหรือการเดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อฉลองเทศกาลลอยกระทงในกรุงเทพ อาจจะลองมองตัวเลือกเข้าพักผ่อนคลายที่โรงแรมให้รางวัลกับตัวเองในเทศกาลดี ๆ แบบนี้ด้วยที่พักแสนสบาย ในช่วงเทศกาลที่จะถึงนี้ หากจองที่พักล่วงหน้า 14 วันทางโรงแรมเสนอส่วนลดให้ถึง 25% และหากเข้าพักสองคืนขึ้นไป จะได้รับบัตรกำนัล 1000 บาทสำหรับใช้ในสปาและร้านอาหารในโรงแรมอีกด้วย ที่สำคัญด้วยทำเลของโรงแรมติดอยู่ทั้งบีทีเอส เอ็มอาร์ที และถนนใหญ่ ทำให้สะดวกสบายในการเดินทางไปไหนมาไหนมากๆค่ะ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.dusit.com/dusitthani/bangkok/specialoffers/joyous-season/
3.ภูเขาทอง วัดสระเกศฯ
หากต้องการสัมผัสบรรยากาศแบบงานวัดที่เก่าแก่ย้อนยุคก็อยากให้ลองไปที่ภูเขาทองดูค่ะ ทุกปีจะมีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งไหว้พระ สารพันของกิน ร้านรวงให้ช้อป มีเกมย้อนยุคให้ได้ลองเล่น ไม่ว่าจะเป็นสาวน้อยตกน้ำ ปาโป่ง ปาเป้า ยิงปืนลม เป็นต้น แถมภายในงานเราสามารถขึ้นไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุบนยอดภูเขาทองได้อีกด้วย เรียกได้ว่าได้ทั้งความสนุกสนานไปพร้อมกับอิ่มบุญไปด้วยในงานเดียวกันเลยค่ะ ในปีนี้จะมีการจัดงานวัดอย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกปี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยงานจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายนเป็นต้นไปค่ะ
หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้ไอเดียสถานที่เที่ยวในเทศกาลลอยกระทงในปีนี้นะคะ ขอให้เที่ยวอย่างสนุกและมีสติไม่ว่าจะเลือกไปลอยกระทงที่ไหนหรือกับใครก็แล้วแต่ ปอเชื่อว่าถึงแม้ว่ามีแฟนเพจคนไหนไปลอยกระทงคนเดียวก็สนุกสนานได้เพราะมีโอกาสได้เจอผู้คนมากมายภายในงานเนอะ ยังไงก็ขอให้ทุกคนมีความสุขในเทศกาลลอยกระทง รวมทั้งร่วมสืบสานประเพณีไทยดี ๆ แบบนี้ไว้ให้รุ่นลูกรุ่นหลานกันด้วยนะคะ
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก painaidii.com, travel.trulife.com, https://www.facebook.com/riverfestivalthailand/, booking.com, homedeedeeforyou.com, travel.kapook.com, board.postjung.com และ dusit.com/dusitthani/Bangkok/th ค่ะ