รู้สึกเหนื่อยกับงานที่ทำหรือสิ่งที่เรียนหรือไม่?

ถ้าชีวิตประจำวันของคุณคือ บ้าน> เรียนหรือทำงาน อยู่ในห้องสี่เหลี่ยม> กลับบ้าน (อันนี้ไม่ใช่ชวนทำงานออนไลน์ผ่านเนตนะคะ 55) … อยากบอกว่าชีวิตของปอก็เป็นแบบนั้นค่ะเมื่อก่อนนี้  แต่พอถึงวันนึงที่มันไม่ไหวเลี้ยววว ต้องออกไปสูดอากาศข้างนอก ออกไปมองเห็นอะไรใหม่ๆบนโลกนี้บ้าง แคะกระปุก รับจ๊อบเพิ่ม ได้เงินพอ+เลือกจุดหมายปลายทาง+มีเวลานิดหน่อย เอาวะ ไปก็ไป 555 … แต่! เราเป็นผู้หญิงคนเดียวนะ ไปเที่ยวไม่อันตรายหรอออ — อืมมม เอาไงดี แล้วก็ไม่รู้อะไรมาดลใจ … ถ้าเราไม่ลองเราจะรู้หรอ 🙂  เห็นสาวๆฝรั่ง สาวญี่ปุ่นแบคแพคกันมากมาย ……เอ้า ลุยยยยยย !!!!

คนอ่านอาจจะงงว่า แล้วเธอเป็นใคร?

ปอเป็นนักเรียนคนนึงที่เรียนธรณีวิทยา อยู่ที่ Moscow ประเทศรัสเซียค่ะ

แล้วทริปนี้ไปไหนดี?

ตั้งแต่มาเรียนที่นี่ฝันว่าครั้งนึงในชีวิตต้องนั่งรถไฟทรานไซบีเรียให้ได้ …เอ๊ะ ตรงนั้นมีทะเลสาบไบคาลด้วย เคยเห็นตอนเรียนในห้อง (ppt ตอนเรียนวิชา ธรณีวิทยาทั่วไป)— ตอนปีที่แล้วมานั่งคิดว่าเราก็อยู่มานานละนะ ไม่ได้ทำทริปนี้สักทีเห็นราคาตั๋วรับได้ เวลาลงล๊อค สอบเสร็จเร็วกว่าคนอื่นแล้วมีเวลาว่าง 10 วัน ก่อนไปฝึกงาน (จริงๆก็ชวนคนอื่นแล้วน้า เค้าไม่ว่างกัน) จองตั๋วๆๆ
(เวบไซต์ที่ใช้ซื้อตั๋วสำหรับคนที่อ่านภาษารัสเซียไม่ได้มีเวบนี้ค่ะ … www.transsiberianexpress.net)

โอเคเสร็จสรรพก็สรุปว่าได้วันที่ 20-30 พค 2556 (ดีใจมากตอนซื้อตั๋วเสร็จอารมณ์แบบว่า ถ้าพลาดโอกาสนี้ เราอาจจะไม่ได้ไปก่อนเรียนจบแล้วเพราะจะยุ่ง)

Moscow : Trans-Siberian Solo Trip
(ทะเลสาบไบคาลของจริงสวยจุงเบยยย  น้องหมาคอนเฟิร์มมม)

แล้วคิดยังไงไปคนเดียว? 

ส่วนตัวมีความสนใจด้านการเดินทาง รักการผจญภัย ชอบออกไปเห็นอะไรใหม่ๆหลงใหลในความงามของธรรมชาติ ชอบถ่ายรูปนะแต่ถ่ายไม่ค่อยเป็น ก็ตามอารมณ์เรื่อยๆ เทคนิคไม่มีค่ะ สมัยก่อนไม่มีกล้องด้วยใช้แต่ไอโฟน 55 รูปหลายๆทริปจะแย่หน่อยนะคะ — บางทีอยากไปเที่ยวก็เกิดอารมณ์วันดีคืนดี เห็นว่าว่างและงบพอ ซื้อตั๋วไปไหนสักทีแบบงงๆ 55 ทำให้ทริปผุดขึ้นมาเรื่อยๆแบบไม่ต้องรอชาวบ้าน (เคยมีหลายครั้งที่รอคนไปด้วยแล้วเวลาไม่ตรงกันสักที เลื่อนมาเรื่อยๆไม่ได้ไป เลยมีจุดหนึ่งที่คิดว่า เห้ย เราควรเริ่มทำอะไรสักอย่างแล้ว ไม่งั้นไม่ได้เที่ยวนะเห้ย) เกิดความมั่นหน้าเล็กๆว่าจะเอาตัวรอดได้ 55 ก็ได้ฉายเดี่ยวทริปสแกนดิเนเวีย (ฟินเเลนด์ สวีเดน เดนมาร์ค นอร์เวย์) วางแผนเอง ไปลุยเอง (ล้มละลายเอง — เพราะแถบนั้นขึ้นชื่อลือนามว่าแพงสุดๆในยุโรปเลยค่ะ)เป็นทริปแรก

เอาเป็นว่าไว้มาเล่าในทริปนั้นแบบละเอียดอีกทีแล้วกันนะคะ  จบทริปก็รู้สึกติดใจการเที่ยวคนเดียว และหลังจากที่ได้เริ่มเดินทางแบบจริงจังตั้งแต่ปี 2012 (จนถึงบัดนี้เกิดมา 8 ทริป+ 1 ทริปไปฝึกงานมาที่ยูเครนค่ะ) แต่ก็ไม่ได้มานั่งเขียนบันทึกความทรงจำการเดินทางสักที จึงขอเจิมทริปบทแรกด้วยทริปที่ภูมิใจที่สุดแล้วกัน อาจฟังดูบ้าระห่ำนะคะ ผู้หญิงคนนี้คิดไงจะนั่งรถไฟ 4 วันที่รัสเซีย แต่ก็ทำไปแล้วค่ะ 55 🙂 อีกอย่างเป็นทริปที่จำได้ว่ามีเพื่อนๆหลายคนที่ไทยสนใจเป็นพิเศษ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ  (ขอบคุณ พี่ “หมอๆตะลุยโลก” ที่ช่วยกระตุ้นให้ได้เขียนสักทีค่าา  55)

Moscow : Baikal Trip 2013

 

Moscow : Trans-Siberian Solo Trip

เกริ่นมาพอควรแล้ว เรามาเริ่มต้นกันเลยดีกว่าค่ะ

รายละเอียดค่าใช้จ่าย :

จะมาใส่ไว้ตอนท้ายตอนที่ 2 นะคะ ขอไปรื้อค้นโน้ตที่จดไว้ก่อน  คร่าวๆทั้งทริปคือ 3 หมื่นบาทค่ะ  (ที่นี่ใช้เงินสกุล รูเบิ้ล คิดง่ายๆก็ 1 รูเบิ้ล = 1 บาท)

สภาพอากาศ :

ตอนไปเป็นรอยต่อฤดูกาลค่ะ ระหว่างใบไม้ผลิ เป็นฤดูร้อน เลยได้ภาพหลายบรรยากาศมาก จริงๆคือฟลุกมากที่ว่างตอนนั้น 😉  อุณหภูมิ บนรถไฟประมาณ 15 องศา ข้างนอกก็ประมาณ 15-20 องศาค่ะ

วางแผนการเดินทาง :

อยากบอกว่าตอนแรกไม่มี 55  จิ้มไว้ว่าจะไป Ulan-Ude(เมืองชายแดนรัสเซียที่ติดกับมองโกเลีย)  กับ ทะเลสาบไบคาล นั่งหาอ่านในเนตบ้างอะไรบ้าง แต่ก็เปลี่ยนไปเยอะพอควรค่ะ เพราะไปเจอเจ้าของโฮสเทลที่ Ulan-Ude ช่วยแนะนำแพลน(คร่าวๆ)ให้ จึงได้มาเป็น ดังนี้

กำหนดการคร่าวๆ :

20/05/2013-24/05/2013 = Moscow – Ulan-Ude  ถึง 24 ตอนเช้า เลยได้เที่ยว Ulan-Ude เต็มวัน
25/05/2013 = นั่งรถไปเที่ยวเมือง Goryachinsk เย็นนั่งรถไฟไปเมือง Irkurst
26/05/2013-29/05/2013 = นั่งรถจาก Irkurst ไปเกาะ Olkhon เพราะเค้าบอกว่าที่เกาะนี้จะได้เห็นทะเลสาบไบคาลสวยฝุดๆ นอนอยู่นั่น 3 คืนเลยจัดหนัก 555
29/05/2013 = นั่งรถกลับมา Irkurst เดินเที่ยวในเมือง
30/05/2013 = บินกลับ Moscow เพราะต้องไปฝึกงานกับที่มหาวิทยาลัย ;D

สรุปการเดินทางคือ 

Moscow > Ulan-Ude > Goryachinsk> Ulan-Ude  > Irkurst > Olkhon island > Irkurst > Moscow

** คอนเสปการเดินทางของปอไม่มีไรมากค่ะ สนอง need ตัวเองล้วนๆ ชอบอันไหน จดๆไว้ มาเสิร์จแล้ววางแพลน ไม่เน้นเก็บแหลกทุกที่ที่ทัวร์ไป ไม่ค่อยอินมิวเซียมเท่าไร ชอบชมนกชมไม้ค่ะ ฮี่ๆๆ บางเมืองไปเดินเล่นชิว นอนพักก็มีค่ะ **

Moscow : Trans-Siberian Solo Trip

 

ข้อได้เปรียบ : 

ปอพูดรัสเซียได้ค่ะ อาจจะไม่ดูผจญภัยเท่าคนที่พูดไม่ได้ แต่ อยากจะบอกว่า ปอจะเข้าใจทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนรถน้า เค้าเม้าอะไร คุยอะไรกัน เราจะแอ๊บใสไม่เข้าใจ (จำได้ว่าเป็นเอเชียคนเดียวในโบกี้) 55 เเต่อย่ามานินทาชั้นนะ — ดีตรงที่ไม่เหงาด้วยค่ะ ได้นั่งคุยกับคนอื่น มีคนมาชวนคุยอะไรงี้ตลอดทางเลย 🙂

ส่วนนิยามสั้นๆของทริปนี้ :

การผจญภัยตัวคนเดียวของหญิงไทยใจงามคนนึง 55 (คิดเองเออเอง) กับรถไฟสายที่ยาวที่สุดในโลก  88 ชั่วโมงบนรถไฟ มีกระเป๋าหนึ่งใบ,ไอโฟนและตุ๊กตาหมาน้อยหนึ่งตัว 555

*ปล ถ้ารูปถ่ายกากๆ ไม่สวย (มีแค่ไอโฟนเลยทริปนี้) หรือมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ นี่คือรีวิวทริปแรกเลยค่ะ

Moscow : Trans-Siberian Solo Trip
(ดูรูปจุดหมายปลางทางไว้ แรงบันดาลใจมาเพียบ)

ขอแบ่งการเดินทางเป็น 2 ส่วนค่ะ  ส่วนแรก อยู่บนรถไฟ และส่วนที่สอง หลังจากลงรถไฟไปเที่ยวเมืองรอบๆทะเลสาบไบคาล (หลายๆส่วนนี้จะเอามาจากตอนที่ปอเขียนถ่ายทอดสดในเฟสบุคนะคะ เพื่อเพิ่มอรรถรสตอนนั้น)

ตอนที่ 1 : บนรถไฟทรานส์ไซบีเรีย 🙂

20/05/2013 เกิดคำถามขึ้นในใจมากมาย เห้ย เอาจริงหรอ 88 ชั่วโมงนะ บนรถไฟนะ จะทำอะไรนะ? หยิบหนังสือมาอ่านหนึ่งเล่ม พร้อมกับหมาตัวนึงไว้นั่งเป็นเพื่อน เผื่อคนบนรถไม่คบเรา 55  เดินทางมาถึงสถานีรถไฟ  ก็มาเดินหาโบกี้ของเรา สำรวจเสร็จสรรพ ได้ที่นั่ง พร้อมเดินทาง จึงอัพเดตความเป็นไปในเฟสบุค เผื่อหายไปกลางทางจะได้มีคนมาตามซากถูก  อันไหนที่มาจากเฟสบุคจะวงเล็บไว้ข้างหน้านะคะ

Go.. go.. go !!

(Facebook) แด่ผู้ที่รักการเดินทางแบบไกลๆ ต่อไปนี้ท่านจะพบกับการถ่ายทอดสด รีวิวแบบละเอียดเท่าที่จะเขียนได้ เนื่องจากว่างมาก จึงหาอะไรทำเผื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นบ้าง 55 *หมายเหตุ : นี่คือรีวิวรถไฟทรานไซบีเรีย ขบวน 082и Moscow-> Ulan-Ude( may 2013) , อาจมีความแตกต่างกับรถไฟขบวนอื่นๆได้ และ โปรดใช้ความอดทนในการอ่าน(เพราะมันยาว 55) +รูปภาพ ปลากรอบจะพยายามลงเรื่อยๆ การอัพโหลดขึ้นอยู่กับความโชคดีในการเจออินเตอร์เนต

Moscow : Trans-Siberian Solo Trip
(รถไฟออกเดินทางมาได้ 3 ชม นิดๆ ขอโชว์หน้าตาผู้ร่วมเดินทางผู้โชคร้ายหน่อย)

 

Moscow : Trans-Siberian Solo Trip
(รูปรถไฟที่นั่งทั้งทริปนี้ ตรงร้านเขียวๆคือร้านขายของชำค่ะ ซื้อขนม หรืออาหารได้)

 

Moscow : Trans-Siberian Solo Trip
(นี่คือสภาพห้องน้ำ ….. ขอเพลียแป๊บบบ )

 

ตั๋วรถไฟรัสเซีย

ตั๋ว : รถไฟรัสเซียมีหลายแบบให้เลือกตามความสะดวกสบายและกำลังทรัพย์ ดังนี้

1) First Class (Lux) ราคามหาโหด ของขบวนนี้ตอนเชคมาคือ ขาละประมาณ 24,000 บาท เป็นลักษณะห้องส่วนตัว นอน 2/2 ดู๋ดี๋ได้ตามอัธยาศัย อิอิ (ไม่มีรูปให้ดูนะแจ๊ะ 55 จิ้นกันเอาว่าหรูๆ) เห็นว่าอาบน้ำได้ แต่เสียเงินเพิ่ม

2) Second Class (Kupe) เเด่ผู้ที่กำลังทรัพย์น้อยลงมา เป็นห้องที่นอนได้ 4 คน (เตียงบนล่าง 2 ชุดในห้อง) มีประตูกั้น สามารถเลือกโบกี้หญิงล้วนได้ตอนซื้อ ถ้าเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ผู้หญิง ราคาขาละ 10,000-12,000 บาท โดยประมาณ

 
Moscow : Trans-Siberian Solo Trip

3) Third Class (Plazkart) ถูกกว่า แบบ 2 ประมาณครึ่งนึง ลักษณะเป็นห้องรวมทั้งขบวน ไม่มีประตูห้องกั้นแยก (1 ห้องของแบบ 2 ที่นอน 4 คน= แบบ 3 นอน 6 คน งงไหม? ดูภาพปลากรอบนะ) เป็นลักษณะเตียงบนล่างเหมือนกัน ถามความเห็นปอคือ มันก็ไม่ได้แย่มากนะ แต่ความปลอดภัยอาจจะน้อยกว่าแบบ 2 เท่านั้นเอง (ก็ต้องเก็บของมีค่าดีๆ เพราะคนอยู่ร่วมกันเยอะมาก โบกี้ในรถไฟขบวนนี้มี 62 คน)

Moscow : Trans-Siberian Solo Trip

จริงๆแล้วรถไฟรัสเซียยังมีที่นั่งอีก 2 แบบ เป็นตั๋วนั่ง (ซึ่งไม่มีในขบวนนี้ — ใครจะนั่งไหวนะ 88 ชั่วโมง) การซื้อ มีเว็บไซต์หรือเอเจนท์ สำหรับคนต่างชาติ (ถ้าจะเอาจริงๆหลังไมค์มาได้ค่ะ) แต่ปอไปซื้อจากสถานีรถไฟที่นี่มา สะดวกดีค่ะ เดี๋ยวนี้มีตู้อัตโนมัติแล้ว ใช้บัตรเครติตจ่ายเท่านั้น หรือซื้อกับเค้าเตอร์ได้ทั้งเงินสดและบัตรค่ะ (แต่พูดภาษารัสเซียนะ 55)

* เอ๋ ว่าแต่จุดหมายปลายทางนี่คือส่วนไหนของรัสเซียหรอออ???

 
Moscow : Trans-Siberian Solo Trip

 

เส้นทางรถไฟสายทรานไซบีเรีย

อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าเป็นทางรถไฟที่ยาวที่สุดในโลก เชื่อมระหว่าง Moscow และ Russian Far East (ระยะทางรวมประมาณ 9,200 กว่า กม.) และมีแตกสายย่อยไปอีก เพื่อเชื่อมการเดินทางไป มองโกเลีย จีน และเกาหลีเหนือ เส้นทางรถไฟเริ่มต้นจาก Moscow ที่ Yaroslavsky Vokzal, วิ่งผ่านเมือง Yaroslavl, Chelyabinsk, Omsk, Novosibirsk, Irkutsk, Ulan-Ude, Chita และ Khabarovsk ไปสุดสายที่ Vladivostok (แต่ขบวนที่ขึ้นมานี้ เริ่มจาก Kazansky Voksal แล้ววิ่งเส้นทางต่างจากข้างต้นเล็กน้อยเพราะสุดสายที่ Ulan-Ude,ระยะทางรวมประมาณ 5,700 กม.(ยาวกว่าระยะทางจากเหนือจรดใต้ประเทศไทยอีกนะ @-@)

จอดทั้งหมด 58 สถานี เวลาจอดพักตามสถานีต่างกัน มีทั้งแต่จอด 1 นาทีถึงมากสุด 51 นาที ถ้าสังเกตจะพบว่า การนั่งรถไฟสายนี้เป็นการนั่งข้ามเขตเวลาอีกด้วย (ข้ามไปเวลาที่เร็วขึ้นเรื่อยๆ ดังภาพที่เป็นตัวเลข + เวลามอสโก, เวลามอสโกช้ากว่าไทย 3 ชม) จุดหมายปลายทางนั้นเร็วกว่ามอสโก 5 ชม

Moscow : Trans-Siberian Solo Trip

 

Moscow : Trans-Siberian Solo Trip

 

Moscow : Trans-Siberian Solo Trip
(รถออกมาสักพักแล้ว เอาวิวข้างทางมาให้ดูนิดหน่อยยยย)

* ไม่รู้เริ่มอยากมาเที่ยวกันรึยัง? สำหรับคนไทยมาเที่ยวรัสเซียโดยไม่ต้องใช้วีซ่าได้ 30 วันนะคะ ^^

สิ่งของที่ต้องเตรียมมาดำรงชีพบนรถไฟ

สิ่งที่จะได้รับบนรถไฟ คือ ฟูกนอน หมอน ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม และผ้าเช็ดหน้า พูดง่ายๆคือ สำหรับการนอน ไม่น่ามีปัญหาอะไร หากใครอยากพกอะไรเสริมมาอีกก็ไม่ว่ากัน เช่น ที่ปิดตา ปลอกหมอน ผ้าห่มส่วนตัว ตุ๊กตาหมูหมีหมาเอามากอดนอน มาถึงสิ่งที่ปอคิดว่าจำเป็นที่ต้องพกมาดีกว่าค่ะ

1. อาหารแห้ง หรือกึ่งสำเร็จรูปต่างๆที่เล่าไว้ในตอนที่แล้ว นม เนย ขนมปัง บลาๆ น้ำดื่ม พร้อมกับแก้วน้ำร้อนสักใบ ช้อน และมีด

2. ชุดนอน หรือชุดที่ใส่สบายเวลานอน (ต้องดูฤดูกาลด้วยค่ะว่ามาตอนไหน) บางทีบนโบกี้อาจจะหนาวๆ เย็นๆ ถ้าไม่ใช่ฤดูร้อนรัสเซีย

3. รองเท้าเเตะ เอามาใส่เดินบนรถไฟ

4. สิ่งบันเทิงต่างๆที่คิดว่าบรรเทาความเบื่อได้ หนัง เพลง หนังสือ เกมส์ หรืออะไรก็แล้วแต่พกมาเลยค่ะ หรือใครมีความสามารถในการนอนนานๆ ก็คงไม่เป็นปัญหาเท่าไร นอนไปเรื่อยๆตลอดทางค่ะ 55 *ใน รถไฟมีปลั๊กให้ชาร์จแบตได้ค่ะ ไฟ 220 V แต่รูเสียบหัวกลมแบบในยุโรป

5. ถ้าคุณไม่พูดภาษารัสเซีย แนะนำให้เอาหนังสือคำศัพท์ภาษารัสเซียแบบพื้นฐานในชีวิตประจำวันมาเผื่อว่า มีปัญหา จะได้พอสื่อสารกับเขาได้บ้าง

6. เสื้อผ้า ปอเอาเสื้อ jumper มาด้วยเพราะกลัวอากาศเย็นบนเกาะ Olkhon แล้วที่เหลือก็เสื้อผ้าไม่ได้หนามากค่ะ อากาศสบายๆ (ต้องเชคก่อนไปนะคะ)

7. และสุดท้ายนี้ … ทิชชู่เปียกกลิ่นที่คุณชื่นชอบ แปรงสีฟันยาสีฟัน สิ่งทำความสะอาดและเจลล้างมือแบบไม่ใช้น้ำ รวมทั้งอุปกรณ์ทำความสะอาดใบหน้า เพราะอะไร? เพราะเราไม่มีโอกาสได้อาบน้ำค่ะ นี่ แหละ เน่าสุดในชีวิตละ 555

Moscow : Trans-Siberian Solo Trip
(อันนี้คือสิ่งที่บนรถไฟมีให้)

 

มาเจาะเรื่องอาหารการกินดีกว่า

เรื่องกินนี่เรื่องใหญ่นะคะ สามวันกว่าๆบนรถไฟ เราจะอดอยากได้อย่างไร เนื่องจากในโบกี้นั้นจะมี บริการน้ำร้อนฟรีตลอดการเดินทาง ดังนั้นไม่พลาดค่ะ จัดเสบียงอาหารแห้งคาวหวานมาครบสำรับ 55 มา ม่า โจ๊ก ไข่ต้ม ปลากระป๋อง สารพันขนม นม คุ้กกี้(เตรียมมาเพื่อจิบน้ำชายามบ่ายกับคุณชายพุฒิภัทร) — เห็นแล้วแอบคิดว่า คือเอามากินสามวันจริงหรอ 55 แต่สำหรับนักเดินทางท่านอื่นหากไม่ประสงค์พกพา ของกินมา จะมีพนักงานของรถไฟเดินหาบเร่ขายอาหารเป็นระยะๆค่ะ ราคาก็ชาร์ตกันไป (แต่จะไม่เหมือน ที่ไทยที่เวลาจอดตามสถานีแล้วมีคนขึ้นมาขาย) ข้าวเหนียวไก่ย่างก็ไม่มีหรอกนะคะ T-T (แต่คุณป้าตู้ ข้างๆดูจัดเต็มมาก ป้ากำลังฉีกไก่ย่างตัวนึงเป็นชิ้นๆ รอทานพร้อมจิบไวน์กัน แหม่…. อ้อ บนรถไฟที่นี่ดื่ม แอลกอฮอล์ได้ค่ะ ) หรือ อีกทางเลือกคือไปที่โบกี้ร้านอาหาร จะมีเวลาเปิดปิดขายอาหารคาวหวานง่ายๆ ค่ะ แซนวิช เคบับ ขนมกรุบกรอบ ชา กาแฟ และอื่นๆ ตอนนี้หิวแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ … ปล. คุณป้ามีไก่ย่างจิบไวน์ของคุณป้า ฉันมีมาม่าไทยกับไข่ต้มก็ฟินแล้ว

Moscow : Trans-Siberian Solo Trip
(ทริปนี้ทำให้คิดได้ว่า บางทีการกินอาหารง่ายๆ ไม่แพง มันก็อิ่มอร่อยเหมือนกันนะเนี่ย)

ตอนเเรกก็กลัวว่าจะเบื่อมาก แต่ไม่เลย มีเรื่องสนุกเศร้าเหงาซึ้งเกิดขึ้นระหว่างทางค่ะ จะมาเล่าเป็นระยะๆ

เรื่องเล่าระหว่างทาง #1

เห็นผู้ชายเสื้อเทาถือเเจกันใบใหญ่ๆไหมคะ นี่ล่ะตัวละครหลักของเรื่องระหว่างทางตอนนี้ .. เรื่องมีอยู่ว่า รถไฟจอดที่สถานีเกิดเหตุนี้ประมาณ 15 นาที มีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของหาบเร่ ที่เห็นใน ภาพลางๆ.. ป้าตู้ข้างๆ ก็เดินลงไปซื้อของ รอบแรก แกหอบกล่องใหญ่มา 3 กล่องข้างในเป็นชุดแก้ว สวยๆพร้อมใบหน้าฟินมากว่าแกช้อปมาในราคา 1,200 รูเบิล เท่านั้น แต่เหมือนตอนแกลงไปซื้อของ ได้ ไปถามราคาเเจกันใบนั้น แกก็มาคุยกับเพื่อนในตู้ว่า ใบสั้นสวยเนอะแต่ 3,800 เพื่อนบ่นๆงุมงำ บอกแพง มากอย่าไปเอา ทีนี้คนขายค่ะ เดินมาเคาะกระจกรถไฟทุก 3 นาที ต่อรองราคากันโดยป้าอยู่บนรถไฟ คน ขายอยู่ข้างนอก เคาะกระจก พร้อมทำการลดราคาล่อใจคุณป้า ป้าและเพื่อนๆก็ส่ายหน้าบอกไม่เอาๆ .. เสียงสัญญาณเตือนว่าอีก 5 นาทีรถไฟออก ป้าลงไปข้างล่างอีกรอบ พร้อมกับเดินขึ้นมาหน้าฟินกว่าเดิม ในมือป้าชูเเจกันใบนี้ให้เพื่อนดู บอกว่าได้มาแล้ว พันเดียวเอง = =

Moscow : Trans-Siberian Solo Trip

จบเรื่องของฮาๆของคุณป้าเราก็มานั่งอ่านหนังสือต่อพักใหญ่ๆ  เพิ่งเห็นว่าเย็นแล้วนี่หน่า มองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นภาพนี้ 🙂

Moscow : Trans-Siberian Solo Trip

 

– ล้อเหล็กเคลื่อนไปเรื่อยๆ –
– เปิดม่านมองออกไปนอกกระจก –
– เอนตัวนอนบนเตียง –
– ปล่อยใจสบายๆ –
– เปิดเพลงที่ชอบฟัง –
– พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า –

# ความสุขบนรถไฟทรานไซบีเรีย #

รถไฟไม่ได้รวดเดียว 88 ชั่วโมง non-stop อันนั้นก็เดินไป คนขับน่าจะไม่ไหวแน่ๆ เลยได้หยุดพักเรื่อยๆค่ะ จอดตามสถานีที่เขียนไว้บนรถไฟ 5 นาทีบ้าง 20 นาทีบ้าง เวลาต่างกันไป ตอนหยุดพักที่นานที่สุดของขบวนปอคือประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ ระหว่างนั้นเราออกมาเดินเล่น ยืดเส้นยืด สายได้ ซื้อของจากร้านค้าได้ แค่วิ่งมาขึ้นรถให้ทันรถออกเป็นพอค่ะ

Moscow : Trans-Siberian Solo Trip
(นั่งเพลินๆมาถึงสถานีนี้แล้ว  Krasnoyarsk 6,600 km away from moscow)

 

เรื่องเล่าระหว่างทาง #2 – ถึงคุณลุงวาเนีย (дядя Ваня)

ระหว่างที่รถไฟจอดพักที่สถานีหนึ่งเป็นเวลา 20 นาที ฉันก็เดินลงไปซื้อน้ำเปล่าที่ตู้ขายของในชานชาลา เจอคุณลุงรัสเซียคนนึงเข้ามาชวนคุย ถามว่ามาจากไหน แต่ทันใดนั้นฝนตกลงมาหนักค่อนข้างหนัก ฉัน เลยวิ่งขึ้นรถไฟมากับลุง ลุงบอกว่านั่งพักก่อนดื่มชาคุยกันก่อนก็ได้ อาจเป็นเพราะว่าลุงแกดูไม่มีพิษมีภัยมั้ง ฉันเลยบอกว่าเดี๋ยวไปเอาแก้วชาที่ห้องก่อน ฉันเดินกลับมาพร้อมกับชาไทยด้วย ให้ลุงลองชิมดู แอบดีใจ ที่ลุงบอกว่าชอบชาไทยมาก ^^ คุณลุงรัสเซียรูปร่างไม่สูงใหญ่มาก นัยน์ตาสีเทาอมฟ้า มีรอยสักที่แขน ซ้าย ใส่ชุดคล้ายกับชุดทหาร สุขภาพดูเเข็งแรง ลุงบอกว่า ลุงอายุ 65 เกษียณแล้ว ลุงเป็นทหารเก่า เคย ประจำการหลายที่ตั้งแต่เมืองทางเหนือของรัสเซียไล่มาจนถึงชายแดนจีน ลุงเล่าประสบการณ์การเป็น ทหารและสอนการใช้ชีวิตให้ฉันฟังหลายชั่วโมงเลยทีเดียว แต่ไม่น่าเบื่อนะ ลุงแกมีเรื่องมาเล่าเยอะมาก แต่ตอนที่ชอบที่สุดคือ ลุงบอกว่า คนเราเมื่อเจอปัญหาหรืออุปสรรคในชีวิต อย่าไปท้อ ให้ยิ้มสู้กับมัน พร้อมกับกางมือขวาขึ้นมา ฉันเพิ่งสังเกตเห็นว่า นิ้วชี้ข้างขวาลุงมีแค่ครึ่งนิ้ว! ลุงบอกว่าตอนแรกก็ท้อใจมาก แต่พอมานั่งคิดดูว่าเรายังมีลมหายใจ ทำไมมายอมแพ้กับเรื่องแค่นี้ ลุงก็เลยเลิกคิดว่าเป็นปมด้อย แล้วใช้ ชีวิตอย่างปกติมาจนทุกวันนี้ … ฉันฟังแล้วก็มาย้อนนึกถึงตัวเอง ที่บางทีรู้สึกท้อกับเรื่องอะไรเล็กๆเกินไป ( แต่ต่อไปนี้ก็มีกำลังใจในการสู้ชีวิตต่อไปมากขึ้นแล้ว ) น่าเสียดายที่ลุงถึงสถานีที่หมายก่อนฉัน ก่อนลง ลุงบอกว่าลงสถานีนี้ (เวลาขณะนั้น 1 ทุ่ม) ต้องนั่งรอรถไฟอีกขบวนหนึ่งยัน 8 โมงเช้า นั่งรถไฟ 2 ชม แล้วไปต่อรถบัสอีก 2 ชมครึ่ง จึงจะถึงบ้าน ฉันเลยพูดออกมาว่า โอโห แบบนี้ลุงนั่งรอนานแย่เลย แถมดู ลำบากกว่าจะถึงบ้านอีก ลุงตอบกลับมาว่า ไม่นานหรอก ถ้าเรารู้ว่ากำลังจะกลับบ้านได้ไปเจอคนที่เรารัก นานแค่ไหน ไกลแค่ไหนลุงก็รอได้ (ประโยคนี้ทำฉันแอบซึ้ง คิดถึงบ้านเบาๆ) ขณะลุงกำลังเก็บของใส่ กระเป๋า ฉันเลยวิ่งไปเอาชากับส้มมาให้ลุง ลุงขอบใจฉันพร้อมกับอวยพรให้เดินทางปลอดภัย 🙂 โชคดีนะ คะคุณลุงวาเนีย 😀

Moscow : Trans-Siberian Solo Trip
(คนขวาคือคุณลุงวาเนีย  คนซ้ายเป็นหนุ่มคาซัคสถานที่เขาขนมมาแบ่งเรากิน อิอิ)

ไม่ค่อยชอบการจากลา แต่การเดินทางไปให้ถึงเมือง Ulan-Ude นี้ เจอคนผ่านไปแล้วก็ผ่านไปมากมาย ทำให้คิดได้ว่า ชีวิตคนเราไม่มีใครที่จะอยู่กับเราได้ตลอดไป ฮ่าๆๆ ฝึกความเข้มเเข็งไปในตัว 🙂

Moscow : Trans-Siberian Solo Trip
(รูปตอนรถจอดที่สถานี ออกมาเดินยืดเส้นยืดสายค่ะ ใกล้ถึงแล้วตื่นเต้น)

รุ่งเช้าของวันที่ 24 พค รถไฟทรานไซบีเรียขบวนของปอมาถึงเมือง Ulan-Ude แล้วค่าาาาาาาา =D>=D>=D>

Moscow : Trans-Siberian Solo Trip

 

Moscow : Trans-Siberian Solo Trip
(ภาพบรรยากาศที่สถานีรถไฟ)

เย้ ไม่อยากเชื่อตัวเองเหมือนกันว่าเราจะมีความอดทนขนาดนั่งอยู่บนรถไฟตั้งหลายวัน ฮ่าๆ จริงๆแล้วจะ ว่านานก็ไม่นาน จะว่าเร็วก็ไม่เร็วนะ อาจเป็นเพราะมีความทรงจำดีๆหลายๆอย่างเกิดขึ้นบนรถไฟ เลยทำ ให้รู้สึกสนุกกับทริปนี้ ขอบคุณมากสำหรับประสบการณ์ครั้งนึงในชีวิตของผู้หญิงคนนึง ที่ได้นั่งรถไฟสาย ที่ยาวที่สุดในโลกสายนี้ 🙂

สำหรับ ส่วนแรกขอจบลงแค่นี้ก่อน สำหรับคนที่รอเห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่ทะเลสาบไบคาลและเมืองรอบๆ ติดตามชมกับตอนต่อไปนะคะ รับรองว่าสนุกไม่แพ้กันเลย 😉

Moscow: Trans-Siberian Solo Trip (Part-2)

You Might Also Like