สำหรับคนที่เป็นมือใหม่หัดเดินทาง ปัญหาเรื่องซื้อตั๋วแบบไหนดีน่าจะเป็นปัญหาหลักอีกอย่างนึงเลยค่ะ วันนี้ปอจะมานำเสนอทริคสำหรับนักเดินทางทุกท่าน ก่อนจะเลือกซื้อตั๋วแบบที่ต้องไปต่อเครื่องค่ะ
ก่อนอื่นมาแนะนำประเภทการเดินทางกันก่อน หลักๆก็คือจะมี 2 แบบ คือ 1) บินตรง และ 2) บินแบบไปต่อเครื่อง ถ้าเราบินตรงก็จะไม่มีปัญหาอะไรค่ะ หลังจากเชคอินขึ้นเครื่องแล้วก็นั่งยาวๆไปจนถึงจุดหมายปลายทาง แต่ถ้าเราไม่ได้ซื้อตั๋วบินตรงนี่สิ ควรจะรู้อะไรก่อนซื้อบ้าง มาดูกันค่ะ
- มีเวลาต่อเครื่องนานเท่าไหร่: ไม่มีระยะเวลาที่ปลอดภัย 100% ถ้าหากเครื่องบินเที่ยวที่1 ที่เราบินดีเลย์ก็อาจจะตกเครื่องได้ระยะเวลาที่ค่อยข้างโอเคคือพยายามเลือก2-4 ชั่วโมงขึ้นไป
- สนามบินที่ไปต่อเครื่องใหญ่หรือซับซ้อนมั้ย: ควรเสิร์ชดูคร่าวๆก่อนซื้อตั๋วนะคะถ้าสนามบินเล็กๆอาจจะเลือกเวลาต่อเครื่องไม่นานมากได้จะได้ไม่ต้องรอนาน สมัยตอนเริ่มเที่ยวเองใหม่ๆปอเคยพลาดซื้อตั๋วแบบต่อเครื่องที่สนามบินCDG ที่ปารีสซึ่งเป็นสนามบินที่ใหญ่มากอารมณ์สุวรรณภูมิโดยมีเวลาต่อเครื่องแค่50 นาทีเป็นโมเม้นท์ที่เครียดมากค่ะเพราะไฟลท์ต้นทางดีเลย์วิ่งแล้วแต่ก็ไม่ทันตกเครื่องจ้า
- ต้องทำวีซ่าtransit หรือไม่? : ควรตรวจสอบกับสายการบินว่าเมืองที่เราไปต่อเครื่องนั้นเราจำเป็นต้องทำวีซ่าหรือไม่กรณีที่เห็นชัดๆคือประเทศจีนค่ะจะมีบางสนามบินที่ผู้โดยสารไปเปลี่ยนเครื่องแล้วต้องขอวีซ่าทรานสิทเช่นอู่ฮั่นฉางซาเป็นต้นดังนั้นอยากให้ลองติดต่อสอบถามกับสายการบินที่เราจะบินก่อนเดินทางเพื่อความมั่นใจค่ะ(โดยเฉพาะสายการบินจีนเช่นChina southern, China Eastern)
- ความคุ้มค่าของตั๋วเมื่อเทียบกับการเลือกบินตรง: เราควรเช็คว่าราคาเร้าใจมั้ยสายการบินดีกว่ามั้ย
ทีนี้เรามาดูข้อดีข้อเสียของการบินแบบไปต่อเครื่องกันดีกว่าค่ะ เผื่อใครเอาไว้ชั่งใจก่อนซื้อนะ
ข้อดี
- ส่วนใหญ่ราคาตั๋วจะถูกกว่าการบินตรงในเส้นทางเดียวกัน จากภาพตัวอย่างด้านล่าง สมมุตปอจะไปอังกฤษ จะเห็นว่าบินตรงนั้นแพงกว่าบินแบบต่อเครื่องถึง 6,000 บาท
2. มีโอกาสได้เที่ยวอีกเมืองนึงระหว่างต่อเครื่องเป็นการพักไปในตัวบางทีการนั่งเครื่องยาวๆสิบชั่วโมงถ้าไม่ได้บินบิสเนสหรือเฟิร์สคือเหนื่อยมากอยู่นะคะจะเมื่อยมากเป็นพิเศษถ้าโชคร้ายได้นั่งตรงกลางระหว่างwindow กับaisle seat
3. บางสายการบินเสนอโรงแรมหรูและวีซ่าฟรีณเมืองที่เราไปรอต่อเครื่องเช่นเอธิฮัด(ได้วีซ่า/นอนอบูดาบีฟรีเมื่อต่อเครื่องนาน) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่https://www.etihad.com/en/destinations/abu-dhabi/stopover
ข้อเสีย
- ถ้าไฟลท์แรกดีเลย์อาจจะตกเครื่องไฟลท์ที่ไปต่อได้แต่ถ้าบินกับสายการบินเดียวกันจะไม่ค่อยน่ากังวลเพราะเค้าจะพยายามช่วยเหลือให้เราไปทันหรือกรณีไม่ทันจริงๆเค้าจะรับผิดชอบหาไฟลท์ถัดไปให้เรา
- อาจจะมีกรณีกระเป๋าเดินทางสูญหายหรือขนย้ายไปไฟลท์ถัดไปของเราไม่ทัน
- ใช้ระยะเวลาเดินทางนานกว่าบินตรงทำให้เหนื่อยบางครั้งต่อเครื่องข้ามคืนทำให้เมื่อไปถึงปลายทางร่างจะพังมาก
ข้อควรระวัง
- ถ้าต่อเครื่องกับสายการบินเดิมหรือสายการบินพันธมิตร(operated by) จะไม่ค่อยมีปัญหาถ้าเกิดกรณีที่ไฟลท์ดีเลย์สายการบินจะรับผิดชอบหาไฟลท์ถัดไปให้เราค่ะ
- Self transfer ถ้าเจอแบบนี้ต้องคำนวณดีๆค่ะว่าเรามีเวลาเปลี่ยนเครื่องเท่าไรเส้นทางต่อไปเพราะการต่อเครื่องแบบนี้เราต้องทำทุกกระบวนการเหมือนมาขึ้นเครื่องใหม่(ผ่านตม/ รับกระเป๋า) แล้วเดินออกมาเชคอินใหม่ซึ่งอยากให้เผื่อเวลามากๆหากจำเป็นต้องบินเเบบนี้จริงๆเพราะถ้ามีเหตุต่อเครื่องไม่ทันจะไม่มีใครมารับผิดชอบเราค่ะซื้อตั๋วใหม่อย่างเดียวเลย(ยกเว้นไฟลท์ก่อนหน้าดีเลย์เกิน6 ชมแล้วเราซื้อประกันการเดินทางไว้ก็จะสามารถเคลมค่าเสียหายได้ค่ะ)
หลังจากได้ทริคเหล่านี้แล้ว ปอหวังว่าการซื้อตั๋วครั้งต่อไปของเพื่อนๆจะง่ายขึ้นนะคะ 😀 พบกันใหม่บทความหน้าค่า