วันนี้จะมารีวิวการขอวีซ่าเข้าประเทศ UAE ผ่านสายการบิน Emirates แบบละเอียดทุกขั้นตอนค่ะ ทำตามได้ง่ายๆแน่นอนนนน
ข้อควรรู้ก่อนขอวีซ่า
– วีซ่าเข้า UAE จะต้องมีคนสนับสนุนเพื่อขอวีซ่า เช่น สายการบิน หรือ โรงแรม ในการทำวีซ่าที่ง่ายคือสุด คือการเลือกบินกับสายการบินของประเทศ UAE ได้แก่ Etihad, Emirates เป็นต้น ซึ่งเราจะสามารถสมัครขอวีซ่าออนไลน์ได้เลย
– สายการบินจะเชื่อมต่อข้อมูลไฟลท์ของเรากับ VFS Global (ศูนย์ยื่นวีซ่า ทำนองเดียวกับหลายๆประเทศที่เราต้องขอวีซ่าเชงเก้น แต่อันนี้ทำออนไลน์ ไม่ต้องไปยื่นเอกสารด้วยตนเอง) เพื่อให้เราขอวีซ่าสะดวกขึ้น ขั้นตอนทุกอย่างจะทำออนไลน์ทั้งหมด
– เตรียมรูปถ่าย, ไฟล์สแกนหน้าแรก และหน้าสุดท้ายของพาสปอร์ต, หลักฐานประกอบการขอวีซ่าอื่นๆ เช่น สเตทเม้นท์ที่โชว์ว่าปีนึงเรามีรายได้มากกว่า 8,000 USD หรือประมาณ 240,000 บาท (ในเว็บเขียนว่า จะช่วยทำให้เอกสารของเราดูหนักแน่นมากขึ้น), หนังสือรับรองการทำงาน, เอกสารที่โชว์ว่าเรามีสินทรัพย์ 8,000 USD ขึ้นไป และหากใครมีวีซ่า UK, USA, UAE, New Zealand, Australia, Canada หรือ Schengen visa ก็สแกนยื่นไฟล์แนบไป (คิดว่าเค้าจะพิจารณาให้วีซ่าเราง่ายขึ้นค่ะ) โดยทั้งหมดนี้เตรียมเป็นไฟล์ .jpg ไว้แนบตอนกรอกข้อมูลออนไลน์
– คำแนะนำจาก VFS คือ ควรขอวีซ่าล่วงหน้า 4 วันขึ้นไป หรือไม่เกิน 58 วัน
– บัตรที่ใช้ชำระค่าธรรมเนียมใช้ได้แค่ visa และ mastercard
ทีนี้มาดูขั้นตอนการขอวีซ่ากันค่ะ
1. ก่อนอื่นเราต้องซื้อตั๋วเครื่องบินกับสายการบิน Emirates ก่อน เมื่อซื้อเสร็จสมบูรณ์จะได้ Reference number ซึ่งเราจะนำมาใช้ในการขอวีซ่าต่อไป
2. เข้าเว็บ Emirates.com เลือก Manage booking or Check in ใส่นามสกุลและรหัสการจองของเรา หลังจากนั้นระบบจะโชว์หน้าที่มีข้อมูลเที่ยวบินของเราขึ้นมาให้เลื่อนลงไปด้านล่าง เพื่อเลือก UAE visa คลิ๊ก Apply for your UAE visa
3. พอคลิ๊ก Apply for your UAE visa จะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมาแล้หายไป ให้เราไปเชคจากอีเมล์ของเราที่ใช้ซื้อตั๋ว จะมี reference number (ก๊อปปี้ไว้) และลิงค์ของ dvpc ให้เราคลิ๊กเพื่อเริ่มขอวีซ่า (ตัวสีม่วงๆในรูปข้างล่าง) โดยจะต้องใช้ข้อมูลรหัสการจองตั๋วของเอมิเรสต์ด้วยเช่นกัน
4. จะมีหน้าต่างนี้ขึ้นมา เพื่อบอกว่าต่อจากนี้กระบวนการต่างๆจะเป็นของเว็บไซต์ VFS แล้วนะ คุณกำลังจะออกจากเว็บของเอมิเรตส์แล้ว (สายการบินมาช่วยเชื่อมต่อข้อมูลไฟลท์ให้เราขอวีซ่าสะดวกขึ้นเฉยๆ) ก็คลิ๊ก continue to visa application
5. หน้าต่างที่เป็นค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าจะขึ้นมาให้เราดูว่าวีซ่าแต่ละประเภทมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ โดยเริ่มจากฟรีวีซ่า (เสียแค่ค่าธรรมเนียมให้กับ VFS 21.12$) ถ้าเราอยู่ใน UAE ไม่เกิน 48 ชั่วโมง แล้วค่าวีซ่าก็จะแพงขึ้นเรื่อยๆตามระยะเวลาที่เราขอ (สามารถดูรายละเอียดได้จากตารางในรูปเลยค่ะ) ซึ่งก็ไม่ต้องกังวลอะไร เพราะเค้ามีข้อมูลไฟลท์เราแล้ว เดี๋ยวพอคลิ๊กต่อไปเรื่อยๆ เค้าจะเลือกให้เราเองว่าต้องสมัครวีซ่าแบบไหน
6. หลังจากนั้นจะมีบอกวิธีการสมัครขอวีซ่า เอกสารที่ต้องใช้เเบบจำเป็น คือ
1) รูปถ่ายไซส์พาสปอร์ต
2) สแกนหน้าแรกที่มีข้อมูลพาสปอร์ต และ
3) หน้าสุดท้ายของเล่มพาสปอร์ต รวมไปถึงเอกสารอื่นๆที่ยื่นเพิ่มเติม (ปอลงรายละเอียดไว้ตรงข้อควรรู้ก่อนขอวีซ่าด้านบนแล้วค่ะ) หลังจากนั้นก็คลิ๊กในช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆว่าเรารับทราบและอ่านข้อมูลเหล่านี้แล้ว
7. หน้าถัดไปจะขึ้นข้อมูลเที่ยวบินของเรา ก็คลิ๊กตรงวงกลมเล็กๆหน้ารายละเอียดข้อมูล และยืนยันชื่อเรา ใส่ข้อมูลพาสปอร์ต สัญชาติ แล้วกด continue
8. หน้านี้จะถามว่าเราสมัครวีซ่าให้ตัวเองมั้ย ถ้าใช่ให้ใส่ว่า Self และจะถามว่าต้องการสมัครแบบ express หรือแบบด่วนมั้ย (มีค่าบริการเพิ่มเติมอีก 20 USD++) หลังจากนั้นใส่ Email ของเราลงไป
9. หน้านี้จะโชว์รายละเอียดค่าธรรมเนียมทั้งหมดให้เราดู โดยถ้าเรามีทริปเร่งด่วน คือ ถ้าต้องเดินทางภายใน 24-96 ชั่วโมง ระบบจะสมัครให้เป็นแบบ express โดยอัตโนมัติ โดยเราจะต้องเสียเงินเพิ่มอีก 20 USD และมีค่า tax อีกนิดหน่อย
10. หลังจากนั้นจะเป็นสเตปการขอวีซ่า (มีทั้งหมด 4 สเตป คือ กรอกข้อมูล – อัพโหลดเอกสาร – สรุปข้อมูล – ชำระเงิน)
ตอนนี้เราอยู่ที่สเตป 1 จะแบ่งข้อมูลที่ต้องกรอกเป็น 3 ส่วน คือ 1) ข้อมูลส่วนตัว 2) ข้อมูลพาสปอร์ต 3) ข้อมูลที่อยู่ปัจจุบันของเรา 4) ข้อมูลที่พักที่ UAE และ 5) ข้อมูลการทำงานของเรา โดยข้อมูลส่วนตัวก็ถามหมด ชื่อเรา ชื่อพ่อแม่ แต่งงานรึยัง สัญชาติ วันเกิด การศึกษา ฯลฯ ข้อมูลพาสปอร์ต วันหมดอายุต่างๆ หลังจากนั้นจะเป็นที่พักที่ UAE หรือถ้าไปอาศัยบ้านเพื่อนก็ใส่รายละเอียดลงไป และสุดท้ายข้อมูลการทำงาน ทำที่ไหน ตำแหน่งอะไร ถ้าเกษียณหรือลาออกแล้วก็ใส่วันที่ออกจากงานลงไป
11. พอเสร็จการกรอกข้อมูล ก็มาอัพโหลดเอกสารประกอบการขอวีซ่า โดยใช้รูปถ่าย, ไฟล์สแกนหน้าแรก และหน้าสุดท้ายของพาสปอร์ต (ต้องเป็นแบบมีสีไม่ใช่ขาวดำนะ), หลักฐานประกอบการขอวีซ่าอื่นๆ เช่น สเตทเม้นท์ที่โชว์ว่าปีนึงเรามีรายได้มากกว่า 8,000 $ หรือประมาณ 240,000 บาท (ในเว็บเขียนว่า จะช่วยทำให้เอกสารของเราดูหนักแน่นมากขึ้น), หนังสือรับรองการทำงาน, เอกสารที่โชว์ว่าเรามีสินทรัพย์ 8,000 USD ขึ้นไป และหากใครมีวีซ่า UK, USA, UAE, New Zealand, Australia, Canada หรือ Schengen visa ก็สแกนยื่นไฟล์แนบไป (คิดว่าเค้าจะพิจารณาให้วีซ่าเราง่ายขึ้นค่ะ) โดยทั้งหมดนี้ใช้ไฟล์ .jpg ไฟล์ละไม่เกิน 200 KB ถ้าใหญ่ไปให้บีบไฟล์ก่อนนะคะ
12. เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย จะมาที่หน้าสรุปว่าเราโหลดอะไรไปบ้าง โดยยังสามารถแก้ไขข้อมูลได้ถ้าใส่อะไรผิดพลาดไป ถ้าทุกอย่างโอเคก็กด Submit
13. สเตปสุดท้ายคือการชำระเงิน จะมีสรุปราคาที่ต้องชำระให้เราดูก่อน และบัตรที่ใช้ได้คือแบบ Visa และ Mastercard หรืออีกวิธีนึงคือการชำระเงินผ่าน Paypal
14. หลังจากนั้นจะมีหน้า Payment confirmation บอกว่าเราชำระเงินเสร็จสมบูรณ์แล้วนะ พอเรากด Close หน้าต่างทุกอย่างจะหายไปเลย ไม่ต้องตกใจนะคะ เพราะเดี๋ยวจะมีอีเมล์เข้ามาหาเรา
15. สักแปบนึงก็มีเมล์มาจาก VFS คอนเฟิร์มรายละเอียดต่างๆ รวมถึงบอก Confirmation number ที่เราสามารถเอาไว้ Track ว่าวีซ่าเราจะได้เมื่อไรจากลิงค์ในอีเมล์ด้วยค่ะ
16. หลังจากนี้ก็รอไม่เกิน 4 วันทำการ จะมีอีเมล์ที่แนบวีซ่ามา เป็นไฟล์ pdf เหมือนรูปด้านล่าง ก็ปริ๊นท์เพื่อเอาไปยื่นที่ ตม ค่ะ อ้อ อย่าลืมเช็ครายละเอียดความถูกต้องวีซ่าก่อนเดินทางด้วยนะคะ จะได้ไม่มีปัญหา
หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์นะคะ เจอกันรีวิววีซ่าถัดไปค่า
